ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สำนักงานประกันสังคม เผยมติบอร์ดปรับขึ้นค่าบริการทางการแพทย์ เน้นความเท่าเทียมในการดูแลผู้ประกันตนใช้สิทธิโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ระบุเป็นอัตราที่สูงและเมื่อเทียบกันแล้วไม่น้อยกว่ากองทุนประกันสุขภาพอื่นๆ ด้าน สปสช.ยืนยัน รพ.รัฐและเอกชน ใช้มาตรฐานและอัตราการจ่ายเดียวกัน

นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล

นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ชี้แจงกรณีข้อเรียกร้องของโรงพยาบาลเอกชนในการเข้าร่วมนโยบายด้านสุขภาพของรัฐ ว่า สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดให้สถานพยาบาลคู่สัญญาทุกแห่งทั้งภาครัฐและเอกชนดูแลผู้ประกันตนที่เลือกสถานพยาบาลให้เป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์ ตั้งแต่การให้การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ดูแลรักษาพยาบาลในระยะเริ่มแรกของการเจ็บป่วยจนสิ้นสุดการรักษา ตลอดจนต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพ ซึ่งมติของคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 13) เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2560 ได้ปรับเพิ่มอัตราค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลคู่สัญญา

1. ค่าเหมาจ่ายรายหัว 1,500 บาท/คน/ปี

2. ค่าภาระเสี่ยงสำหรับการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังเป็น 447 บาท/คน/ปี

3. ค่ารักษาผู้ป่วยในสำหรับโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงฯ 640 บาท/คน/ปี

4. ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในที่มีค่าใช้จ่ายสูงเกิน 1 ล้านบาท 15 บาท/คน/ปี ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2560

โดยสำนักงานประกันสังคมจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนในอัตราที่เท่ากันและเสมอภาคกัน

นพ.สุรเดช กล่าวว่า ทั้งนี้ หากรวมค่าบริการทางการแพทย์ทั้งหมดที่สำนักงานประกันสังคมจ่ายให้แก่สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิ เท่ากับ 2,602 บาทต่อราย นอกจากนี้สำนักงานประกันสังคมยังได้มีการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ตามสิทธิประโยชน์ทางการแพทย์อื่นๆ ที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาทั้งในสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิหรือสถานพยาบาลอื่นๆ ตามความเหมาะสมของแต่ละสิทธิประโยชน์ที่มีการจ่ายเพิ่มเติมให้แก่ผู้ประกันตนหรือสถานพยาบาล เช่น

ค่ารักษาพยาบาลที่เป็นค่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ค่าอุปกรณ์สำหรับการบำบัดรักษาโรคค่าปลูกถ่ายอวัยวะ ค่าบำบัดทดแทนไต ค่ายาสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ค่ายาราคาสูงสำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นเฉพาะ ค่าส่งเสริมสุขภาพเป็นการตรวจร่างกายประจำปี กรณีประสบอันตราย/ฉุกเฉิน ค่าบริการทันตกรรม คิดเป็นอัตราค่าบริการทางการแพทย์ทั้งสิ้น 797.69 บาทต่อราย ซึ่งเมื่อรวมค่าบริการทางการแพทย์ที่สำนักงานประกันสังคม จ่ายให้แก่สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิ และสถานพยาบาลอื่นๆสำหรับการบริการแก่ผู้ประกันตนแล้ว มียอดรวมทั้งสิ้น 3,399.69 บาท/คน/ปี ซึ่งเป็นอัตราที่สูงและเมื่อเทียบกันแล้วไม่น้อยกว่ากองทุนประกันสุขภาพอื่นๆ

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงข้อเรียกร้องของ รพ.เอกชนที่เข้าร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่า สปสช.เห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมของโรงพยาบาลเอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่ผ่านมาก็ทำงานด้วยดีมาโดยตลอด โดย รพ.เอกชนเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไข้ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้เข้าถึงบริการสาธารณสุขที่จำเป็นและได้บริการที่มีคุณภาพ หากมีปัญหาอะไรก็ยินดีรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของ รพ.เอกชน เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่ดีที่สุดต่อไป

“สปสช.ขอยืนยันว่า โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนใช้มาตรฐานเดียวกันและอัตราการจ่ายเงินเดียวกัน อย่างไรก็ตามทราบว่า รพ.เอกชนหลายแห่งได้มีการลงทุนเพื่อปรับปรุงคุณภาพของตัวเองให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น ซึ่งก็เป็นสิ่งดี และอาจจะมีผลต่อต้นทุน ทาง สปสช.ก็จะได้เชิญทาง รพ.เอกชนมาหารือต่อไป” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว