ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เลขาธิการ สปส.เผย สนช.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.เงินทดแทนฉบับแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว แจงกฎหมายฉบับแก้ไขใหม่เพิ่มสิทธิลูกจ้างขยายครอบคลุมถึงลูกจ้างส่วนราชการ องค์กรไม่แสวงกำไร สถานทูต พร้อมเพิ่มอัตราค่าทดแทนจาก 60% เป็น 70% ขยายระยะเวลาจ่ายค่าทดแทนกรณีทุพพลภาพ-เสียชีวิต เพิ่มการจ่ายค่าทำศพ ขณะที่นายจ้างรับสิทธิปรับลดเงินสมทบจาก 3% เหลือ 2% ต่อเดือน คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2561 นี้

นายสุรเดช วลีอิทธิกุล

นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค.61 ในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาเห็นชอบรับร่างหลักการวาระที่ 2 และวาระ 3 ร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทนฉบับใหม่แล้ว สำหรับร่างพระราชบัญญัติที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับนี้ มีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และการสร้างโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐ ซึ่งเป็นกฎหมายที่แก้ไขแล้วลูกจ้างได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น และนายจ้างได้รับความเป็นธรรม อีกทั้งยังมีการเพิ่มคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อกำกับดูแลความโปร่งใสของกองทุนเงินทดแทนอีกด้วย

ทั้งนี้ประเด็นการแก้ไขสาระสำคัญของกฎหมายเงินทดแทนฉบับดังกล่าว อาทิ ขยายความคุ้มครองแก่ลูกจ้างของส่วนราชการ ขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมไปถึงลูกจ้างซึ่งทำงานในองค์กรของนายจ้างที่มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรทางเศรษฐกิจ แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “ภัยพิบัติ” เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับความหมายหรือลักษณะของภัยพิบัติทำให้นายจ้างได้รับการลดการจ่ายเงินเพิ่มตามกฎหมายในท้องที่ที่รัฐมนตรีกำหนด รวมถึงแก้ไขการบังคับใช้เกี่ยวกับขอบเขตการคุ้มครองลูกจ้างซึ่งได้รับการจ้างงานในประเทศ (Local staff) ของสถานเอกอัครราชทูตและองค์การระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ได้แก้ไขการออกหลักเกณฑ์เงื่อนไขและอัตราในการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน และค่าทำศพกรณีลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยจนถึงแก่ความตาย หรือสูญหาย ให้ดำเนินการออกเป็นกฎกระทรวงเพื่อให้ลูกจ้างได้รับประโยชน์ ดังนี้

การเพิ่มอัตราค่าทดแทนกรณีต่างๆ จากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือน

เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้างทุพพลภาพเป็นไม่น้อยกว่า 15 ปี ปัจจุบันไม่เกิน 15 ปี

เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้าง ถึงแก่ความตายหรือสูญหายเป็นไม่เกิน 10 ปี ปัจจุบันไม่เกิน 8 ปี

แก้ไขหลักเกณฑ์การจ่ายค่าทดแทนสำหรับกรณีลูกจ้างไม่สามารถทำงานได้ ให้ได้รับตั้งแต่วันแรกที่ลูกจ้างไม่สามารถทำงาน ปัจจุบันจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้างไม่สามารถทำงานติดต่อกันได้เกิน 3 วัน

เพิ่มการจ่ายค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของลูกจ้าง ตามอัตราที่กำหนด ในกฎกระทรวง ปัจจุบันการจ่ายค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของลูกจ้างเป็นจำนวน 100 เท่า ของอัตราสูงสุดของค่าจ้างขั้นต่ำรายวันตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน

ในส่วนของนายจ้างก็จะได้รับประโยชน์จากร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทนนี้เช่นกันคือ ได้มีร่างกฎหมายในการปรับลดเงิน เพิ่มจากเดิมร้อยละ 3 ต่อเดือน ลดลงเหลือร้อยละ 2 ต่อเดือน และกำหนดเกณฑ์การคำนวณเงินเพิ่ม กรณีนายจ้างค้างชำระเงินสมทบ โดยกำหนดให้จำนวนเงินเพิ่มต้องไม่เกินจำนวนเงินสมทบที่นายจ้างต้องจ่าย ปัจจุบันไม่ได้กำหนดเพดานเงินเพิ่มไว้

สำหรับขั้นตอนต่อไปเตรียมเสนอสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนนำขึ้นทูลเกล้าเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อบังคับใช้ต่อไปคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2561