ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประกันสังคมแจงกรณียาต้านไวรัส HIV ไม่เพียงพอทำให้ต้องใช้ยาจาก สปสช. เผยประกันสังคมซื้อยาต้านไวรัส HIV ในระบบเดียวกับ สปสช. ขณะนี้ สปส.ได้สั่งซื้อยาแล้วอยู่ระหว่างตรวจรับและเร่งจัดส่งให้ รพ. แจงการนำยาของ สปสช. มาให้แก่ผู้ประกันตนก่อนเป็นการบริหารจัดการของ รพ.ที่ทำเพื่อประโยชน์ผู้ป่วยเป็นสำคัญ

นายสุรเดช วลีอิทธิกุล

นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีสื่อออนไลน์ระบุยาต้านไวรัส HIV ในระบบประกันสังคมไม่เพียงพอทำให้ต้องใช้ยาจาก สปสช.มาทำการักษาว่า ปัจจุบันสำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการบริหารจัดการยาต้านไวรัสเอชไอวี โดยใช้หลักการบริหารจัดการรูปแบบเดียวกันกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งให้องค์การเภสัชกรรมบริหารจัดการจัดส่งยาให้แก่สถานพยาบาลเพื่อให้การรักษาผู้ประกันตนที่ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนยาทั้งสิ้น 25 รายการ ประกอบกับขณะนี้สำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการสั่งซื้อยา เพื่อเติมเต็มสต๊อกยาที่ขาดในบางรายการแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจรับและเร่งจัดส่งยาให้สถานพยาบาล

สำหรับกรณีที่สถานพยาบาลได้นำยาของ สปสช.มาให้แก่ผู้ประกันตนก่อนนั้น เป็นการบริหารจัดการของสถานพยาบาล เพื่อประโยชน์สำหรับผู้ป่วย ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมได้มีการจัดประชุมหารือร่วมกับองค์การเภสัชกรรม เพื่อปรับจุดสั่งซื้อยา รวมทั้งจัดให้มีปริมาณเติมเต็มในสต๊อกยาของสำนักงานประกันสังคมมากขึ้น อีกทั้งคัดเลือกยาที่เป็นสูตรพื้นฐาน มีปริมาณการใช้สม่ำเสมอ และผู้ประกันตนมีความจำเป็นต้องใช้มาก เพื่อจัดทำแผนจัดซื้อรายปี โดยให้องค์การเภสัชกรรม เตรียมพร้อมจัดหายาตามปริมาณที่สำนักงานประกันสังคมสั่งซื้อต่อไป

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้ายว่า สำนักงานประกันสังคมพร้อมและจัดหายาเวชภัณฑ์ ครุภัณฑ์ และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ เพื่อให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนมาตรฐานที่กำหนดอย่างเพียงพอต่อความต้องการจนสิ้นสุดการรักษาโดยไม่จำกัดจำนวนเงินค่าใช้จ่าย และจำนวนครั้งที่เข้ารับการรักษา โดยสถานพยาบาลจะไม่เก็บค่าบริการทางการแพทย์จากผู้ประกันตน