ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อย.แจงกรณีการปรับประเภทยาแก้แพ้ “ลอราทาดีน” มีการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบจากคณะกรรมการยา และได้มีการเฝ้าระวังติดตามผลข้างเคียงบนพื้นฐานของความปลอดภัย โดยเล็งเห็นถึงประโยชน์และข้อดีที่ประชาชนจะได้รับจากการปรับประเภทยาดังกล่าว ทำให้ประชาชนเข้าถึงยาที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยยังคงต้องเป็นยาที่ขายในร้านขายยา ซึ่งร้านขายยาส่วนใหญ่จะมีเภสัชกรแนะนำในการใช้ยาอยู่แล้ว และจะปรับเฉพาะขนาดบรรจุแผงละไม่เกิน 10 เม็ด กล่องละไม่เกิน 2 แผง เท่านั้นโดยต้องระบุข้อความ “ใช้เฉพาะโรคภูมิแพ้ ไม่ลดน้ำมูกในโรคหวัด” บนฉลากยา ขอผู้บริโภคมั่นใจการพิจารณาดำเนินการอยู่บนพื้นฐาน ประโยชน์ของประชาชน

นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา

นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า จากกรณีข้อกังวลเกี่ยวกับการปรับลดสถานะควบคุมยาลอราทาดีน (Loratadine) นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอชี้แจงว่า ปัจจุบันพบว่ามีประชากรของประเทศไทยที่ป่วยด้วยโรคภูมิแพ้จำนวนมาก โดยส่วนใหญ่อาการของโรคจะพบตั้งแต่อายุยังน้อยและมักจะได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แล้ว อาการของโรค มักจะมีน้ำมูก จาม คันจมูก คันตา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย โดยมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการในเบื้องต้น

ซึ่งยารักษาอาการภูมิแพ้ในประเทศไทยจะมีทั้งยาสามัญประจำบ้านและยาอันตราย ยาทั้ง 2 กลุ่มนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ในการสั่งซื้ออยู่แล้ว ดังนั้น อย.จึงได้เล็งเห็นถึงประโยชน์และข้อดีของประชาชนที่จะได้รับจากการปรับลดประเภทยาดังกล่าวนี้ เนื่องจากจะทำให้ประชาชนเข้าถึงยาที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ในต่างประเทศยาลอราทาดีน จัดอยู่ในกลุ่มยาสามัญประจำบ้านซึ่งสามารถหาซื้อได้สะดวกจากร้านค้าทั่วไป แต่สถานะของยาลอราทาดีนที่ อย.กำหนดในครั้งนี้ยังคงเป็นยาที่ต้องขายในร้านขายยา ซึ่งการปรับยาลอราทาดีนเป็นยาที่ไม่ใช่ยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ จะปรับเฉพาะขนาดบรรจุแผงละไม่เกิน 10 เม็ด กล่องละไม่เกิน 2 แผง เท่านั้น ส่วนขนาดบรรจุอื่นยังคงเป็นยาอันตรายเช่นเดิม โดยได้มีข้อกำหนดการบ่งใช้ของยาไว้อย่างชัดเจนในการแก้แพ้ ไม่ใช่อาการหวัด และต้องระบุข้อความ“ใช้เฉพาะโรคภูมิแพ้ ไม่ลดน้ำมูกในโรคหวัด” บนฉลากยา ซึ่งจะเป็นการป้องกันไม่ให้ประชาชนใช้ยาผิดโรคและใช้ยาไม่สมเหตุผล

ขณะที่ในด้านความปลอดภัยพบว่า ยาลอราทาดีนเป็นยาที่รักษาภูมิแพ้กลุ่มใหม่ ซึ่งอาการข้างเคียง เช่น อาการง่วงนอนพบได้น้อย หรือผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการง่วงนอนเลยหลังจากกินยานี้ ทำให้ไม่ส่งผลเสียในการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งจะแตกต่างจากยารักษาภูมิแพ้กลุ่มเก่า ที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอนมาก ปากแห้ง คอแห้ง หรือปัสสาวะคั่งได้ ในด้านของการโฆษณาที่กังวลจะเป็นสาเหตุให้เกิดการใช้ยาอย่างไม่เหมาะสมนั้น โดยข้อเท็จจริงแล้วการโฆษณาเป็นการสื่อสารให้ข้อมูลเรื่องยา ซึ่งต้องผ่านการตรวจสอบและผ่านการอนุญาตจาก อย.ก่อนเสมอ เพื่อให้ข้อมูลที่สื่อถึงประชาชนมีความถูกต้องเหมาะสม ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงทางเลือกในการรักษาโรคภูมิแพ้อย่างปลอดภัย รวมถึงได้ความรู้เกี่ยวกับสรรพคุณยา วิธีการใช้ยา และข้อควรระวังในการใช้ยา

รองเลขาธิการ อย. กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าการปรับประเภทของยาลอราทาดีน ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นและพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบจากคณะกรรมการยา ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิแล้วและมีการเฝ้าระวังติดตามผลข้างเคียงบนพื้นฐานของความปลอดภัย เพื่อประโยชน์สูงสุดในการคุ้มครองผู้บริโภค

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ค้าน อย.งุบงิบปรับลดสถานะคุมยาลดอาการแพ้ เภสัชหวั่นใช้ยามั่ว-ปชช.เสี่ยงรับผลกระทบอื้อ