ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“หมอธีระวัฒน์” เผยแบคทีเรียกินเนื้อคนไม่ใช่เรื่องไกลตัว ไม่ใช่แค่ถูกแมลงหรือยุงกัด แต่สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเป็นอีกสาเหตุสำคัญ เหตุเป็นตัวโน้มนำให้ผิวหนังเสียหาย ยิ่งหากผิวหนังมีบาดแผลอยู่แล้วก็ยิ่งทำให้เกิดอาการอักเสบ บวม มีตุ่มน้ำใส ทำให้เชื้อโรครอบๆ ตัวเข้าไปได้ง่ายขึ้น และหากรุนแรงก็อาจต้องเนื้อเน่าส่วนนั้นทิ้ง หลายรายตัดแขนตัดขาก็มี

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคน หรือโรคเนื้อเน่า ว่า แบคทีเรียชนิดนี้เป็นอะไรที่ใกล้ตัว แต่คนมักคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว ที่สำคัญไม่ใช่แค่ถูกแมลงหรือยุงกัด แต่สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเป็นอีกสาเหตุสำคัญ โดยเฉพาะในเกษตรกร และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ปนเปื้อน แม้จะไม่ใช่เกษตรกรก็ตาม เนื่องจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือที่เรารู้จักกันดี เพราะที่ผ่านมามีการใช้กันบ่อย คือ พาราควอต ซึ่งคณะกรรมการวัตถุอันตรายได้มีมติแบนสารเคมีไปเมื่อเร็วๆนี้ มีข้อมูลผลกระทบด้านสุขภาพว่า พาราควอต เป็นตัวโน้มนำให้ผิวหนังเสียหาย ยิ่งหากผิวหนังมีบาดแผลอยู่แล้วก็ยิ่งทำให้เกิดอาการอักเสบ บวม มีตุ่มน้ำใส ทำให้เชื้อโรครอบๆตัวเข้าไปได้ง่ายขึ้น และหากรุนแรงก็อาจต้องเนื้อเน่าส่วนนั้นทิ้ง หลายรายตัดแขนตัดขาก็มี

“ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้รวบรวมข้อมูลสถานการณ์โรค Necrotizing fasciitis ของประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2558-2561 พบผู้ป่วยรวม 4 ปี จำนวน 68,668 ราย โดยพบมากในอายุเฉลี่ย 61 ปี ที่สำคัญจะพบในพื้นที่ซ้ำๆ ช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีการพ่นสารเคมีเป็นประจำทุกปี ดังนั้น จึงมักพบในเกษตรกร และที่หลายคนไม่รู้คือ พบในประชาชนในพื้นที่ด้วย เนื่องจากสารที่พ่นออกไปไปเจือปนในดิน ในสิ่งแวดล้อม เมื่อน้ำชะล้างก็ไหลออกไปยังถนนหนทาง หากเราเดินไม่ใส่รองเท้า ทำให้สัมผัสโรคได้ ดังนั้น จึงต้องระมัดระวัง และดูแลตัวเองให้ดี” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่ปนเปื้อนออกมาและโน้มนำให้เกิดโรคเนื้อเน่ามีแค่พาราควอตหรือไม่ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า มีหมด เพียงแต่ที่ผ่านมาเราใช้ตัวนี้มาก