ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.วอนคนไทย สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ หากป่วยขอให้อยู่บ้าน ระบุเป็นมาตรการป้องกันโรครับมือไวรัสอู่ฮั่น ดีกว่าผ้ายันต์อาจารย์ไหนๆ

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในประวัติศาสตร์การรับมือโรคระบาดข้ามแดน ประเทศไทยยังไม่เคยถึงขั้นต้องปิดประเทศห้ามคนเข้า-ออกประเทศ แต่ตอนนี้ประเทศไทยอยู่กึ่งกลางว่าจะไปทางไหน หากโชคดีก็กลับไปใช้ชีวิตสงบสุขได้ หรืออาจจะเดินไปถึงการระบาดแบบไข้หวัดใหญ่ 2009 หากคนตื่นตระหนกจะไม่มีประโยชน์กับใคร แต่สิ่งสำคัญสังคมต้องรู้ตัวว่าจะทำอย่างไร สิ่งที่สำคัญที่สุดในนาทีนี้คือทุกคนไม่ว่าจะสบายดี หรือไม่สบายควรใส่หน้าหากอนามัย และล้างมือบ่อย ๆ เป็นเรื่องสำคัญ ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้ อย่างหน้ากากอนามัยอาจจะใช้แบบผ้าที่สามารถซักมาใช้ซ้ำได้ นอกจากนี้ ในส่วนของชุมชน ชาวบ้านหากไม่สบาย หยุดพักได้ก็อยากให้หยุดอยู่กับบ้านไม่ออกไปแพร่โรค เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญในยามที่เรากำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เราไม่อยากเผชิญ

นพ.ธนรักษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งหมดนี้เป็นการเตรียมการไปข้างหน้า ไม่ใช่ว่าไม่มีการระบาดในเมืองไทยแล้วเราจะนิ่งไม่ทำอะไร พอมีการระบาดแล้วค่อนขยับแบบนั้นจะไม่ทัน ซึ่งที่ผ่านมาต้องบอกว่าเราทำเรื่องนี้ได้เร็ว และทำได้ดีด้วย อย่างเช่นการตรวจหาเชื้อในผู้ป่วยรายแรก ก็ตรวจเชื้อเจอก่อนจีนจะประกาศรหัสพันธุ์กรรมของไวรัสนี้ถึง 2 วัน ต่อมาเมื่อจีนประกาศรหัสพันธุ์กรรมในวันที่ 11 ม.ค. เราก็สามารถเอาวิเคราะห์เทียบเคียงกันได้ภายใน 8 ชั่วโมง นี่แสดงถึงศักยภาพของเรา แต่ถ้าเราไปถึงจุดที่มีการระบาดขึ้นในประเทศเรายังต้องการความร่วมมือจากประชาชนทุกคน ถ้าผู้ป่วยยังออกมาเดินเพ่นพ่าน ไอจามใส่คนอื่นแทนที่เราจะมีผู้ป่วยแค่หลักหมื่น ก็อาจจะกลายเป็นหลักแสน แต่ถ้าทุกคนช่วยกันแทนที่เราจะมีผู้ป่วยหลักแสนเราก็อาจจะมีผู้ป่วยแค่หลักหมื่น

เมื่อถามว่ากรณีที่นายกรัฐมนตรีประกาศตั้งศูนย์ปฏิบัติการดูแลเรื่องนี้อย่างเป็นทางการทำให้เราต้องมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราทำอย่างเต็มที่มาตั้งนานแล้ว อย่างที่รู้ว่าเราไม่เคยนอนหลับ บางวันไม่ได้กินข้าวทั้งวัน แต่สมมติว่าเมืองไทยมีเคส 100 เคส กับมีเคส 1,000 เคส การปฏิบัติตัวไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันไม่ว่าการแพร่ระบาดระดับไหนเรายังปฏิบัติตามตัวเหมือนเดิมคือสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อย ๆ คือวิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเหมาะสม ดีกว่าผ้ายันต์ของอาจารย์ไหน ๆ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีจีนพบผู้ป่วยติดเชื้อฯ แล้วแสดงอาการที่ระบบทางเดินอาหาร นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นแบบนั้น คือออกมากับอุจจาระ ถ้าเข้าห้องน้ำไม่ล้างมือแล้วมาจับ มาปรุงอาหารก็อาจจะเกิดการติดเชื้อได้ แต่ไม่ใช่เส้นทางการระบาดของโรคนี้แน่ ๆ ยกเว้นว่าแกล้งกันจริง ทั้งนี้ช่องทางการแพร่ระบาดอื่น ๆ มีโอกาสต่ำกว่าการแพร่ระบาดผ่านทางเดินหายใจ ถามว่าคนที่ไม่มีอาการแต่มีเชื้อในลำคอแพร่เชื้อได้หรือไม่ ตอบว่าแพร่ได้เหมือนกัน ผ่านการไอ จาม ถ้าคุยกันไม่สวมหน้ากากอนามัย มีโอกาสติดได้ ถึงแม้ไม่ไอ แต่เวลาพูดมีน้ำลายกระเด็น ซึ่งอาจจะเป็นเพียงละอองฝอยที่มองไม่เห็น ก็ติดกันได้เพราะฉะนั้นต้องสวมหน้ากากอนามัย