ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.เผยข่าวดีไม่มีป่วยไวรัสโคโรนาเพิ่ม แถมรักษาหายเพิ่ม 1 ราย จ่อออก รพ.อีก 3 ราย ส่วนคนไข้อาการหนัก ยังทรง พร้อมโต้ข่าวนักโทษอังกฤษส่งข้ามแดนส่อติดโรค Covid-19 ไม่จริง ยันตรวจสุขภาพปลอดโรคก่อนเดินทาง “กรมควบคุมโรค” ไม่ตอบโต้ หลายประเทศห้ามเดินทางมาไทย ชี้สถานการณ์ไม่ต่างกัน แต่เตือนธรรมชาติโรคติดต่อชอบแพร่ในที่อากาศหนาวเย็น

เมื่อวันที่ 12 ก.พ.63 เวลา 12.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 19 (Covid-19) ว่า วันนี้ไม่มีผู้ป่วยยืนยันไวรัสโคโรนา 19 รายใหม่ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 33 ราย ข่าวดีคือวันนี้รักษาหายให้กลับบ้านอีก 1 ราย จึงเหลือยังรักษาตัวใน รพ. 22 ราย รวมผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านแล้ว 11 ราย นอกจากนี้ ในจำนวนผู้ป่วยที่ยังดูแลอยู่นั้นพบว่ามี 3 ราย รายแรกเป็นคนไทยที่กลับจากอู่ฮั่น ที่ถูกแยกตัวไปอยู่ รพ.ชลบุรี ผลแล็บล่าสุดเป็นลบ หากผลตรวจสุดท้ายยืนยันเป็นลบก็ให้กลับบ้านได้เลย ไม่ต้องถูกกักโรคที่สัตหีบแล้ว รายที่ 2 ผู้ป่วยที่สถาบันบำราศนราดูร 1 ราย ผลตรวจเป็นลบรอตรวจยืนยันครั้งสุดท้าย และรายที่ 3 ผู้ป่วยที่ รพ.ราชวิถี ซึ่งขณะนี้ออกจากห้องแยกโรคมาอยู่ที่หอผู้ป่วยเฉพาะแล้ว คาดว่าเร็ว ๆ นี้แพทย์จะให้กลับบ้านได้

“ส่วนผู้ป่วย 2 รายที่อาการหนักนั้น ทีมแพทย์ยังดูแลใกล้ชิด ให้การรักษาตามโรค และตามอาการ ส่วนกรณีที่มีการให้ภูมิคุ้มกันจากแท็กซี่ที่รักษาหายไปก่อนหน้านี้นั้น ตอนนี้อาการยังทรงๆ เหมือนตอนแรกรับ อย่างไรก็ตามทีมแพทย์จะติดตามดูแลรักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญควบคู่ไปด้วย” นพ.สุวรรณชัย กล่าว และว่า สำหรับผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคสะสมถึงปัจจุบัน 799 ราย ในจำนวนนี้เหลือดูแลใน รพ. 212 ราย ที่เหลือกลับบ้านแล้ว และจากการที่จีนมีมาตรการคุมโรคอย่างเข้มข้น ทำให้คนอู่ฮั่นเข้าประเทศไทยน้อยมาก ส่วนที่ยังตกค้างในไทยก็มีการตรวจติดตาม และเมื่อมีไข้ก็นำเข้าสู่ระบบเกือบทั้งหมด จึงอยากให้ประชาชนสบายใจ แต่คนที่คลุกคลี ใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงยังคงต้องเฝ้าระวังตนเองตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างจริงจัง

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีรายงานจากประเทศอังกฤษว่าผู้ต้องขังที่ถูกส่งข้ามแดนไปจากประเทศไทยอาจติดเชื้อไวรัสโคโรนา 19 นั้น ขอชี้แจงว่ามาตรการก่อนส่งตัวผู้ต้องขังข้ามแดนนั้นต้องมีการตรวจสุขภาพ ซักประวัติ และตรวจห้องปฏิบัติการ บางโรคต้องเอกซเรย์ เช่น วัณโรค โรคระบบทางเดินหายใจ หากผิดปกติจะไม่มีการส่งตัวข้ามแดนอย่างแน่นอน และจากการตรวจสอบข้อมูลผู้ต้องขังรายดังกล่าวได้มีการตรวจสุขภาพตามระบบแล้ว เป็นปกติถึงให้เดินทาง ดังนั้นข่าวติดเชื้อไวรัสฯ ในเรือนจำจึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า ผู้ต้องขังชาวอังกฤษรายนี้อยู่ในวัยทำงาน ก่อนส่งกลับมีการตรวจสุขภาพครบ ทั้งการตรวจสัญญาณชีพ การหายใจ อุณหภูมิ ไม่มีไข้ เอกซเรย์ และตรวจเสมหะไม่พบเชื้อก่อโรคระบบทางเดินหายใจ รวมถึงไม่พบวัณโรค นอกจากนี้ ผู้ต้องขังรายดังกล่าวยังเดินทางออกไปตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.2563 ระยะเวลาค่อนข้างห่างเกิน 2 สัปดาห์แล้ว ดังนั้นการที่จะเกิดอะไรขึ้นตามข่าว ซึ่งถ้าข่าวถูกต้องก็น่าจะเป็นเรื่องใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังรอข้อมูลจากประเทศอังกฤษเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวถามว่าในหลายประเทศมีการติดเชื้อภายในประเทศ แต่ก็มีหลายประเทศที่ประกาศห้ามประชาชนของตัวเองเดินทางมายังประเทศไทย ดังนั้นไทยเองจะมีการเตือนประชาชนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศอื่น ๆ นอกจากจีนหรือไม่ นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ประเทศจีนชัดเจนว่าแนะนำให้หลีกเลี่ยง ส่วนประเทศอื่น ๆ ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ เมื่อดูรายละเอียดจะพบว่าไม่ได้เป็นทั้งประเทศ เช่นเดียวกับไทยก็ไม่ได้เป็นทั้งประเทศ เพียงแค่จุดที่นักท่องเที่ยวเข้ามา ดังนั้นที่เราทำคือใครที่จะไปในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศต่าง ๆ ต้องรู้วิธีปฏิบัติตน ส่วนกลุ่มเสี่ยงหากเลี่ยงได้ก็เลี่ยง แต่เราไม่ได้ประกาศเตือนไม่ให้ไปในประเทศนั้น ประเทศนี้ เพราะเชื่อมั่นมาตรการของแต่ละประเทศในการจัดการปัญหา

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า แม้ว่าบางประเทศจะประกาศเตือนหรือห้ามการมาประเทศไทย แต่ไม่มีความจำเป็นที่เราต้องไปนั่งพิจารณาแบบเขา ถ้าเราไม่ได้ไปคลุกคลีในจุดที่เขาประกาศพบผู้ป่วย หรือพื้นที่เสี่ยงมาก ๆ จึงยังไม่มีการประกาศจำกัดการเดินทาง ซึ่งถ้าเราประกาศเขาอาจจะได้รับผลกระทบมากกว่าด้วยซ้ำ อย่างการระบาดในฮ่องกง เกาหลีใต้สถานการณ์ไม่ได้ต่างจากไทยเลย บางประเทศหนักกว่าเราด้วยซ้ำ และโดยธรรมชาติของเชื้อก่อโรคทางเดินหายใจจะแพร่ระบาดได้ดีเมื่ออยู่ในพื้นที่ทีมีอากาศหนาว และทางนั้นถือเป็นไฮซีซันเพราะมีหิมะตก ส่วนของไทยยกตัวอย่างที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 เมื่อหลายปีก่อน หรือไข้หวัดต่าง ๆ ช่วงพีคมี 2 ช่วงคือ หน้าฝนเพราะมีความชื้น และช่วงปลายฝนต้นหนาว