ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผลประชุม ศบค.พิจารณห้ามทั้งชาวไทย และต่างชาติ เดินทางเข้าประเทศไทย ขอชะลอก่อนหลังตัวเลขติดเชื้อโควิด-19 ไม่ลด! มีผลตั้งแต่ 2 เม.ย. ถึง 15 เม.ย.นี้ ด้านโฆษก ศบค.เผยขอให้รอดูหน้าจอทีวี “บิ๊กตู่” เตรียมแถลงข้อเท็จจริงเคอร์ฟิวหรือไม่!

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 2 เม.ย. 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ว่า สำหรับผู้ป่วยที่ยังเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดวันนี้ (2 เม.ย.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 104 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,875 ราย ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมควบคุมโรคพบปัจจัยเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อในช่วงวันที่ 26 มี.ค.-1 เม.ย.63 พบว่า กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ อย่างภูเก็ต คนทำงานในสถานบันเทิง ร้านอาหาร โรงแรม ขับรถรับจ้าง ตรงนี้มีพื้นที่ที่มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาจำนวนมาก แม้กระทรวงต่างประเทศจะรายงานว่า ตัวเลขลดน้อยลงมากจากหลายพันเป็น 900 คน ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่ายังมากอยู่ดี จำเป็นต้องลดลง

นอกจากนี้ จ.ยะลา ปัตตานี ก็พบว่า ผู้ป่วยเกิดจากการกลับมาจากการร่วมพิธีทางศาสนาที่มาเลเซีย และยังพบที่อินโดนีเซียอีกด้วย จึงต้องขอเน้นย้ำว่า กรณีนี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผู้ป่วยมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น แม้กระทั่งอุตรดิตถ์ สระแก้ว ชลบุรี ก็พบผู้ป่วยเชื่อมโยงต่างชาติเช่นกัน อีกทั้ง ยังพบกรณีชาวไทยที่กลับจากต่างประเทศอีก ทั้งทวีปยุโรป อเมริกา และเอเชีย ด้วยเหตุนี้ นายกฯ จึงขอให้ชะลอการเดินทางการเข้ามาของชาวต่างชาติ และคนไทย โดยสั่งการให้กระทรวงต่างประเทศดำเนินการเรื่องนี้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ยกเว้น คนที่มีความจำเป็นจริงๆ ให้ติดต่อที่สถานทูตของประเทศนั้นๆ

เมื่อถามว่า จะมีการยกระดับไม่ให้มีการเดินทาง หรือเคอร์ฟิวการเดินทางทั่วประเทศตั้งแต่สี่ทุ่มถึงตีสี่หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า วันนี้ขอให้ท่านผู้ชมทุกคนติดตามหน้าจอโทรทัศน์ เพราะท่านนายกฯ ห่วงใยพี่น้องประชาชนทุกคน มาตรการต่างๆ ที่เราทำกันมา ท่านขอบคุณทุกคน แม้ผลการติดเชื้อจะไม่เพิ่มมาก แต่ก็ไม่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ จึงขอให้ติดตามการประกาศอีกครั้งตามหน้าจอโทรทัศน์ เพื่อให้พวกเราผนึกใจกันเป็นหนึ่ง ท่านจะเป็นผู้กล่าวเอง