ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเปิดฉากค้นหาผู้ป่วยโควิด-19 เชิงรุก เน้นคัดกรองผู้มีความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อ อาทิ วินจักรยานยนต์รับจ้าง พร้อมประสานคลินิกพันธมิตรช่วยคัดกรองและส่งตัวมารับการตรวจหาเชื้อ ด้านเลขาธิการ สปสช.ชี้ โรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมระบบสามารถให้บริการได้อย่างมีคุณภาพได้มาตรฐานและผู้ป่วยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อม นพ.ปริญญา ชมวงษ์ รองผู้อำนวยการ สปสช. เขต 13 กทม. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมกับ สปสช.ในการดูแลผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจโควิด -19 เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2563

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ในภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ อะไรที่เป็นทรัพยากรของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลเอกชนหรือโรงพยาบาลรัฐก็ต้องระดมกำลังแก้ไขปัญหาและสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพมาตรฐานและปลอดภัย

ในส่วนของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ มีกระบวนการคัดกรองและดูแลผู้ป่วยที่มีมาตรฐาน มีห้องปฏิบัติการที่สามารถตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ได้เอง สามารถรักษาได้ทั้งผู้ป่วยที่อาการไม่หนัก และผู้ป่วยอาการหนัก หากเป็นผู้ป่วยที่อาการร้ายแรงมากๆ ก็ยังมีระบบส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพที่สูงกว่า และที่สำคัญคือมีการทำงานเชิงรุกออกไปในพื้นที่เพื่อค้นหาผู้ป่วย สิ่งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในอนาคตที่จะค้นหาคนที่ติดเชื้อและดึงออกมาไม่ให้กระจายไปแพร่แก่คนอื่นๆ

"ที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มารักษาที่นี่ 35 ราย ไม่มีผู้ป่วยเสียชีวิต ก็สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในโซนนี้และเป็นส่วนที่รัฐบาลพยายามสร้างความมั่นใจว่าโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมระบบก็สามารถให้บริการได้อย่างมีคุณภาพได้มาตรฐานและไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด"นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว

ด้าน นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ กล่าวว่า โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวบนถนนแจ้งวัฒนะที่รับบริการทุกสิทธิ มีฐานประชากรในพื้นที่รับผิดชอบมีประมาณ 7 แสนคน ที่ผ่านมาในช่วงต้นที่โควิด-19 ระบาด ทางโรงพยาบาลยังไม่มีประสบการณ์ ยังไม่เข้าใจว่าโรคนี้มีลักษณะอย่างไร การรักษาจะเป็นอย่างไร ดังนั้นจึงเน้นการรับคนไข้และรักษาให้ได้ก่อน โดยเป็นศูนย์สำรองเตียงเพื่อบรรเทาภาระให้รัฐบาล

นพ.เหรียญทอง กล่าวว่า จากผู้ติดเชื้อจำนวน 35 ราย ขณะนี้มีเหลืออยู่ 5 รายและอาการดีขึ้นมากแล้ว เตรียมส่งไปกักตัวที่ Hospitel ได้ และเมื่อเริ่มมีความเข้าใจในโรคนี้มากขึ้นก็ได้เริ่มทำงานเชิงรุกในการตรวจหาผู้ติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา หากตรวจพบก็จะรับเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาลได้ทันที

"เราเตรียมไว้ 50 เตียงแต่พร้อมขยายได้ทันทีถ้าจำเป็นตามสถานการณ์ เพราะฉะนั้นการให้บริการจึงเป็น one stop service ทั้งตรวจหาเชิงรุกและรับเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยใน ซึ่งเรามั่นใจว่าสามารถดูแลผู้ป่วยได้"นพ.เหรียญทอง กล่าว

ทั้งนี้ กระบวนการทำงานเชิงรุกของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ จะเน้นคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อได้ก่อน ถ้าพบผู้มีประวัติต้องสงสัยหรือเข้าเกณฑ์ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดจึงจะตรวจหาเชื้อ โดยวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมาได้เริ่มจากการคัดกรองวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างหน้าโรงพยาบาลจำนวน 17 คนและคัดกรองวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างบิ๊กซี แจ้งวัฒนะอีก 70 คน นอกจากนี้ยังมีคลินิกพันธมิตรอีกหลายแห่งที่จะช่วยคัดกรองและส่งตัวมารับการตรวจหาเชื้อ รวมทั้งประสานกับหัวหน้าชุมชน หัวหน้าหมู่บ้าน ผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ให้ช่วยส่งข้อมูลผู้มีความเสี่ยงเพื่อให้โรงพยาบาลทำการคัดกรองอีกด้วย