ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผย ว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2563 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-14 เม.ย. 63 มีรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศ 8,746 ราย เสียชีวิต 6 ราย โดยกลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยมากสุดคือ 5-14 ปี รองลงมาคือกลุ่มอายุ 15-24 ปี และอายุแรกเกิด-4 ปี ตามลำดับ ส่วนจังหวัดที่พบอัตราป่วยสูงสุด คือ ระยอง อ่างทอง และนครราชสีมา ตามลำดับ จำนวนผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงปัจจุบันมีตัวเลขผู้ป่วยคิดเป็นร้อยละ 56 ของจำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในปี 62 ส่งผลให้การคาดการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 63 นี้ มีโอกาสที่จะพบจำนวนผู้ป่วยมากกว่าปี 62

การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้จะยังพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้น แม้จะยังไม่ใช่ฤดูการระบาดของโรคก็ตาม แต่เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน อาจมีฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ และหากฝนตกอาจทำให้เกิดน้ำขังตามภาชนะและวัสดุต่างๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายได้

กรมควบคุมโรค ขอให้ประชาชน ชุมชน และหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ โดยปิดฝาภาชนะที่ใช้เก็บน้ำ ใช้ทรายอะเบทใส่ในภาชนะที่มีน้ำหรือทำลายภาชนะที่ไม่จำเป็น ที่อาจมีน้ำขัง เปลี่ยนน้ำในภาชนะที่ไม่มีฝาปิด ขัดขอบภาชนะทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำ เพื่อทำลายไข่ยุงลาย ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมในบ้านและรอบบ้านให้เป็นระเบียบ ให้โปร่ง ไม่มีมุมอับที่เกาะพักของยุง ตัดวงจรชีวิตยุงลาย ลดการแพร่ระบาดของโรค

ส่วนการป้องกันไม่ให้ยุงกัด โดยสวมใส่เสื้อแขนขาวและกางเกงขายาว ใช้สารไล่ยุงชนิดต่างๆ เช่น DEET ใช้กลิ่นกันยุงเช่น ตะไคร้ หรือสารเคมีอื่นๆ นอนในมุ้ง และหากมีอาการไข้สูง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน หน้าแดง ปวดศีรษะ มีรอยจ้ำเลือดสีแดงตามลำตัว แขน ขา หรือสงสัยว่าป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ให้รีบพบแพทย์ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422”