ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำทีมผู้บริหารทุกกรม แถลงฟื้นความเชื่อมั่นคุมโควิด-19 หลังพบเคส “ทหารอียิปต์-ลูกทูต” ย้ำปัจจุบันไม่มีติดเชื้อในประเทศ ขอไปเที่ยวระยองได้ อย่ายกเลิก

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) จัดแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ภายหลังกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีทหารอียิปต์ และลูกของคุณทูตซูดานติดเชื้อ ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาร่วมแถลงข่าว แต่ไม่ได้นั่งร่วมแถลง โดยนั่งสังเกตการณ์อยู่บริเวณด้านหลัง  ทั้งนี้  นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดสธ. แถลงว่า วันนี้(16 ก.ค.) พวกเราทั้งกระทรวง ในแต่ละกรมมาร่วมแถลงข่าวเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการควบคุมดูแลการระบาดโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันรพ.ไม่มีการรักษาผู้ป่วยโควิดอาการหนักเลย 

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ในไทยไม่มีรายงานผู้ป่วยภายในประเทศ ซึ่งย้ำตลอดว่า การรับเชื้อเข้ามาก็มาจากต่างประเทศ แต่ก็อยู่ในสถานกักกันของรัฐ อย่างไรก็ตาม การสวมหน้ากากอนามัยยังสำคัญ มีข้อมูลว่า หากไม่ใส่หน้ากากอนามัยทั้งคู่มีความเสี่ยงติดเชื้อร้อยละ 70 แต่หากใส่หน้ากากทั้งคู่ความเสี่ยงติดเชื้อจะเหลือร้อยละ 1.5 ทั้งนี้ สำหรับกรณีจังหวัดระยองนั้น ระบบเราสามารถตรวจจับได้ก่อน จากนั้นเราก็ดำเนินการด้วยการตรวจเชื้อในพื้นที่เสี่ยง กลุ่มเสี่ยง โดย วันแรกตรวจ 1,336 กว่าคนซึ่งไม่พบเชื้อ และวันที่ 15 ก็ตรวจอีกกว่า 1,252 คน ซึ่งกำลังรอผล แต่เชื่อว่าเป็นลบ แต่ขอย้ำว่า จากการควบคุมไม่จำเป็นต้องปิดตัวจังหวัดแต่อย่างใด

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่ระยอง วันนี้คนตื่นกลัวมากทั้งที่ยังไม่ได้มีการระบาดแต่อย่างใด ทั้งนี้ ขอวอนคนที่มีแผนไปท่องเที่ยวที่ระยองนั้นขออย่ายกเลิก ขอบุคคลที่มีชื่อเสียง เซเลเบตี้ช่วยกันหันไปเที่ยวระยอง เราอย่าสร้างผีที่ไม่มีตัวตน ให้เกิดความกลัว

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในจังหวัดระยองมีความเครียด และบางรายก็มีความโกรธ ซึ่งก็เป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้น เพราะประสบกับภาวะว่า จะมีการระบาดระลอก 2 หรือไม่ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มี อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ด้วยโรคอุบัติใหม่ เราต่อสู้ด้วยความรู้ และต้องต่อสู้ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง หากเราขาดสติก็จะไม่ส่งผลดี ดังนั้น ตระหนักแต่อย่าตระหนก ต้องมีสติ เพื่อจะสามารถดูแลและป้องกันตนเองได้ ทั้งนี้ เราเคยเผชิญแบบนี้มาแล้วเมื่อช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เรามีประสบการณ์ และเรารู้จักวิธีการป้องกัน ทั้งการสวมใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือ การรักษาระยะห่างก็จะช่วยป้องกันและควบคุมโรคได้ โดยอยากให้พวกเราพิจารณาว่า เราอยู่กลุ่มเสี่ยงระดับไหน ไม่ใช่ตระหนกไปหมด อย่างเราเป็นคนระยอง แต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ก็ไม่ต้องกังวลมาก พวกเราต้องมีความหวัง ซึ่งเคสทหารอียิปต์ที่จ.ระยอง ก็ไม่ใช่ซูเปอร์สเปรดเดอร์แต่อย่างใด ไม่เหมือนเคสสนามมวย ทางกรมฯ ได้ส่งทีมสุขภาพจิตลงไปพื้นที่ระยองเพื่อให้คำปรึกษาดูแลจิตใจ หรือโทรมาที่ 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กล่าวว่า ปัจจุบัน อสม.ยังดูแลประชาชนได้กว่า 70-80% ซึ่งปัจจุบันก็ยังทำอยู่ทั่วประเทศ รวมทั้งในพื้นที่ระยอง อสม.ก็ดำเนินการเข้าไปดูแลชาวบ้านในจ.ระยอง อย่างไรก็ตาม ในเรื่องกิจกรรมเที่ยวปันสุข ก็อยากจะเชิญชวนให้ไปเที่ยวระยอง ไม่ต้องกังวล เราควบคุมสถานการณ์ได้

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในส่วนของการเตรียมความพร้อมกรณีหากมีการระบาดระลอก 2 ทางกระทรวงฯ เราเตรียมกันตลอด อย่างปัจจุบันเรามีเตียงรองรับทั้งหมดกว่า 22,052 เตียงทั่วประเทศ แบ่งเป็นสังกัดกระทรวงสาธารณสุขอยู่ที่ 18,405 เตียง และนอกสังกัดกระทรวงฯอีก 3,647 เตียง โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ มีเตียงทั้งหมด 2471 เตียงทั้งของรพ.รัฐและเอกชน ซึ่งปัจจุบันเรารับคนไข้ 77 เตียง ซึ่งไม่ใช่โควิด แต่เป็นรายที่เฝ้าระวัง และมีอาการแทรกซ้อน

นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า มีการเตรียมพร้อมทั้งยา วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ทั้งหน้ากากอนามัย Surgical Mask จัดสรรเฉลี่ย 1.74 ล้านชิ้น หน้ากาก N95 มีอยู่ประมาณ 1.7 ล้านชิ้น ชุด PPE ราว 1 ล้านชุด ยา Favipiravir มีใช้อยู่ทั้งสิ้น 6 แสนกว่าเม็ด ใช้ได้ประมาณเกือบ 10,000 เคส และยา Remdesivir เรามีเตรียมพร้อมและใช้อยู่บ้าง ซึ่งใช้ได้อยู่ประมาณ 33 เคส โดยใช้ในข้อบ่งชี้ที่มีความรุนแรงของโรค และกำลังขึ้นทะเบียนยาดังกล่าว

“ส่วนเรื่องวัคซีนนั้น ขณะนี้มีการวิจัยและพัฒนา โดยปัจจุบันมีอยู่ 7 แห่งที่ดำเนินการ ที่ชัดเจนก็มีของ นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม และของทางบ.ไบโอเนท เอเชีย ซึ่งกำลังดำเนินการและจะไปสู่การทดลองในคน โดยอย. จะดูทุกขั้นตอน ทั้งผลิตภัณฑ์วัคซีน โรงงานผลิต ทั้งหมดต้องเน้นย้ำความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิผล” นพ.ไพศาล กล่าว

นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ไทยมีความพร้อมเรื่องการเตรียมการตรวจเชื้อ และปัจจุบันขยายเครือข่ายห้องปฏิบัติการตรวจเชื้อกว่า 200 ห้องปฏิบัติการทั้งรัฐและเอกชน และจะขยายเพิ่มอีก โดยที่ผ่านมาตรวจได้ประมาณ 652,000 ตัวอย่าง ซึ่งเราตรวจเจอคิดเป็น 0.4% หมายถึงศักยภาพในการหาเคสของไทยถือว่าดี และขณะนี้เราก็พัฒนาน้ำยาตรวจได้เอง และกำลังพัฒนาวิธีตรวจใหม่ๆ อย่างน้ำลาย เป็นต้น

นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า วันนี้เรามีข่าวดีการใช้ฟ้าทะลายโจรพบว่า ผู้ที่ใช้ยาดังกล่าวพบว่า อาการดีขึ้นชัดเจน ทั้งอาการไอ ใน 3 วันแรกลดลงชัดเจน ทั้งเจ็บคอ เสมหะ และพอครอบ 5 วัน อาการมีน้ำมูก ปวดศีรษะเริ่มดีขึ้น แต่อาการอื่นๆยังไม่ชัด ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจทางห้องปฏิบัติการอีกครั้ง แต่ขอย้ำว่า ฟ้าทะลายโจรใช้ได้ผลในแง่ลดอาการได้ ดังนั้น หากมีอาการคล้ายไข้หวัด ก็ใช้ได้ในขนาดปกติก่อน ไม่จำเป็นต้องถึงขนาดเป็นโควิด-19

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สธ.เข้าร่วมภายในงานแถลงข่าวอยู่ภายในห้องแถลง