ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรคลงพื้นที่ตรวจสอบทหารสหรัฐ กักตัวโรงแรม Alternative state quarantine ไม่พบฝ่าฝืนมาตรการ ชี้หากปชช.มีข้อมูลแจ้งหรือร้องเรียนมาได้ ล่าสุดหลายประเทศกลับพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 6 ส.ค .นพ.เอนก มุ่งอ้อมกลาง ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าทหารสหรัฐไม่ได้มีการกักตัว Alternative state quarantine นั้น ว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนและทางทีมของกรมควบคุมโรค ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบโรงแรมของภาคเอกชนที่ทหารอเมริกา มีการเข้าพัก เบื้องต้นพบว่าโรงแรมมีการจัดระบบที่ดี มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้า และมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด ซึ่งจากการที่ลงพื้นที่และไปดูกล้องวงจรปิดในช่วงเวลา 14.00-15.00น.ของวันที่ 5 ส.ค.นั้น ซึ่งเป็นช่วงที่ตนและทีมลงไปโรงแรมดังกล่าวนั้น ก็ไม่พบว่ามีการฝ่าฝืนมาตรการ

“อย่างไรก็ตามหากมีข้อมูลการฝ่าฝืนคำสั่ง ก็สามารถแจ้งมาได้ แต่อย่างไรก็ตามอยากขอย้ำประชาชนว่าอย่ามีการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือมีการข่าวปลอม เนื่องจากจะมีความผิดทั้ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และพ.ร.บ.โรคติดต่อ ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ”นพ.เอนก กล่าว

 

 

วันเดียวกัน กรมควบคุมโรครายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกาและเข้ารับการเฝ้าระวังกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 4 ราย ทำให้มีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,148 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 94.53 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 124 ราย หรือร้อยละ 3.72 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,330 ราย

สำหรับผู้ติดเชื้อวันนี้ ทั้ง 2 ราย เป็นสัญชาติไทย มาจากสหรัฐอเมริกา ชาย อายุ 42 ปี หญิง อายุ 62 ปี เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ State Quarantine ในจังหวัดชลบุรี พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรก วันที่ 4 สิงหาคม 2563 (วันที่ 4 ของการกักตัว) ทุกรายไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดชลบุรี โดยก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อในเที่ยวบินเดียวกัน 1 ราย

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อทั่วโลกขณะนี้ยังคงแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง โดยในวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 272,542 ราย และมีผู้เสียชีวิต 6,881 ราย ส่งผลให้ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสมจำนวน 18,955,652 ราย และเสียชีวิตสะสม 710,012 ราย ซึ่งทุกประเทศทั่วโลกต่างมีมาตรการทางสาธารณสุขในการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค เป็นของตัวเอง รวมถึงมีการเร่งคิดค้นและพัฒนาวัคซีนเพื่อใช้ในการป้องกันโรคโควิด 19 แต่สิ่งที่กังวลและถือเป็นบทเรียนให้กับประเทศไทย คือ มีหลายประเทศกลับมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมากอีกครั้ง อาทิเช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม ออสเตรเลีย เป็นต้น ส่วนประเทศฟิลิปปินส์ มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาจำนวน 6,352 ราย ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดในประเทศ ส่งผลให้ขณะนี้ประเทศฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 สะสมอยู่ที่ 112,593 ราย