ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ยื่นหนังสือรมว.แรงงาน และบอร์ดประกันสังคมยื่น 6 ข้อเรียกร้องเพื่อผู้ประกันตน

ตามที่เวทีเสวนา "ฟังเสียงเจ้าของเงิน : ประชาชนต้องมีสิทธิร่วมบริหารกองทุนประกันสังคม" เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่จัดโดยสถาบันแรงงานและเศรษฐกิจที่เป็นธรรม ร่วมกับเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และผู้ประกันตนในมาตรา 33 39 และ 40 ได้รวบรวมข้อเสนอจากเวทีเสวนาฯ ยื่นเป็นหนังสือเปิดผนึกต่อคณะกรรมการบอร์ดประกันสังคม ชุดที่ 13

7 ต.ค. ที่ สำนักงานประกันสังคม(สปส.) น.ส.ธนพร วิจันทร์ เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน พร้อมด้วย ตัวแทนสถาบันแรงงานและเศรษฐกิจที่เป็นธรรม(Just Economy and Labor Institute) และเครือข่ายฯ ราว 50-60 คน ได้เดินทางมายัง สปส. ยื่นหนังสือเปิดผนึกต่อ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และบอร์ดประกันสังคม

ทั้งนี้ นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการ สปส. พร้อมด้วย นายมนัส โกศล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ นายธีระวิทย์ วงศ์เพชร บอร์ดประกันสังคมฝ่ายลูกจ้าง เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว

นายทศพล กล่าวให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ว่า จะนำหนังสือที่ได้รับในวันนี้ยื่นต่อบอร์ดประกันสังคมต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือเปิดผนึกระบุข้อเสนอทั้งหมด 6 ข้อใหญ่ ดังนี้

1.ปฏิรูปวิธีการนำเงินประกันสังคมไปลงทุนให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้และมีธรรมาภิบาลยิ่งขึ้น

2.ปฏิรูปสำนักงานประกันสังคมให้เป็นอิสระอย่างแท้จริง ปลอดจากการแทรกแซงทางการเมืองและเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกกลุ่ม

3.สร้างความยั่งยืนให้กับกองทุนประกันสังคมโดยเร่งรัดให้รัฐบาลชำระหนี้เงินสมทบที่ค้างจ่าย ณ สิ้นปีงบประมาณปี 2563 เป็นมูลค่า 87,000 ล้านบาท ภายในเดือนธันวาคม 2563

4.ปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินการของสำนักงานประกันสังคมเพื่อเป้าหมายของการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และมุ่งเน้นบริการให้กับกลุ่มที่เปราะบางได้แก่ คนจน ผู้มีรายได้ต่ำ คนชรา และแรงงานในเศรษฐกิจที่ไม่เป็นทางการ

5.ในกรณีฉุกเฉินจากสถานการณ์ Covid- 19 และสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ให้สำนักงานประกันสังคมตั้งคณะกรรมการพิจารณาความเป็นไปได้ในการนำเงินกองทุนชราภาพบางส่วนออกมาใช้ก่อน ผู้ประกันตนมีอายุครบเกณฑ์ 55 ปี ภายใต้เงื่อนไข "ยืมแล้วค่อยคืน" หรือคิดดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราต่ำ ให้ผู้ประกันตนรับผิดชอบ และให้รัฐรับผิดชอบจ่ายส่วนต่างดอกเบี้ยเงินกู้จนเท่าอัตรากู้ยืมเชิงพาณิชย์ โดยให้ผู้ประกันตนและประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในทุกขั้นตอน

6.เมื่อรับหนังสือเปิดผนึกฉบับนี้แล้ว สำนักงานประกันสังคมต้องไม่นิ่งนอนใจหรือเมินเฉยต่อ "เสียง" ของผู้ประกันตนและประชาชนที่เรียกร้องให้มีความเปลี่ยนแปลง โดยกำหนดเส้นตายในการปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องข้างต้น อย่างน้อย 3 ข้อใหญ่ ภายใน 1 เดือนนับจากวันรับหนังสือ และให้มีตัวแทนของสถาบันแรงงานและเศรษฐกิจที่เป็นธรม และเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ทำหน้าที่ติดตามการตอบรับข้อเสนอจากตัวแทนของสำนักงนประกันสังคมอย่างใกล้ชิดด้วย และหากไม่เกิดความคืบหน้า เราจะดำเนินการฟ้องร้องสำนักงานประกันสังคมให้เป็นคดีตัวอย่างต่อไป

เรื่องที่เกี่ยวข้อง