ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวนี้คาดว่ามีประชาชนท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาจำนวนมากจึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ ซึ่งจากผลการสำรวจพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในการป้องกันโรคโควิด 19 ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 7–8 ธันวาคม 2563 จำนวน 12,190 คน พบว่า ประชาชนมีความกังวลต่อสถานการณ์โควิด 19 เพิ่มมากขึ้นจากการสำรวจครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 23–27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จากร้อยละ 23.30 เป็นร้อยละ 33.40 ในส่วนของการสวมหน้ากากนั้นพบว่า ประชาชนมีพฤติกรรมสวมหน้ากากเป็นประจำ เพิ่มขึ้นจากกสำรวจครั้งที่ 2 จากร้อยละ 81.21 เป็นร้อยละ 84.54 มีการล้างมือด้วยสบู่และน้ำเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 77.77 เป็นร้อยละ 79.28 และมีการรักษาระยะห่าง จากร้อยละ 62.76 เป็นร้อยละ 64.64

ดังนั้นเพื่อเป็นเกราะป้องกันโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง ประชาชนจึงต้องร่วมมือกัน การ์ดอย่าตกสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเป็นประจำทุกครั้งเมื่อออกจากบ้านและเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีคนรวมตัวกันหรือสถานที่แออัดให้เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร รวมถึงหมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์อยู่เสมอ

“ที่สำคัญ ประชาชนควรหมั่นสังเกตตนเอง ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย รวมถึงลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม“ไทยชนะ” ทุกครั้งที่ใช้บริการสถานที่สาธารณะต่าง ๆสำหรับสถานประกอบการยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมหลักด้วยการจัดให้มีระบบคัดกรองก่อนเข้าใช้บริการ มีจุดให้บริการล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ กำหนดจุดเว้นระยะห่างควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการไม่ให้แออัด รวมถึงจัดให้มีระบบระบายอากาศภายในอาคารที่เหมาะสมและทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสบ่อย ๆ โดยเน้นจุดที่มีการสัมผัสร่วมกัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการประเภทปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวควรเน้นการทำความสะอาดห้องส้วม ได้แก่ ที่จับสายฉีดชำระ พื้นห้องส้วม ที่รองนั่งโถส้วม ที่กดโถส้วมและโถปัสสาวะ ที่เปิดก๊อกอ่างล้างมือ กลอนประตู และลูกบิด เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการที่เดินทางในช่วงวันหยุดยาวนี้” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว