ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

คณบดีศิริราชพยาบาล เผยเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาแพทย์ได้เจาะคอผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เพื่อดูดเสมหะ และช่วยให้หายใจดีขึ้น ขณะที่ผลเอ็กซเรย์พบ ปอดอักเสบ และมีผังพืด ย้ำยังไม่มีแนวคิดปลูกถ่ายปอด อยากรักษาให้ผู้ป่วยอยู่ได้ด้วยอวัยวะตัวเอง ต้องติดตามใน 72 ชม

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงความคืบหน้าอาการของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ว่าหลังจากไม่ได้มีการแถลงอาการมา 2 วัน โดยเมื่อวันเสารที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ตอนบ่ายโมง ทีมแพทย์ได้ทำการเจาะคอผู้ว่าฯ เพื่อดูดเสมหะให้ได้มากขึ้น ลดการอักเสบ เนื่องจากคนที่ใส่ท่อนานๆ มีแนวโน้มเจาะคอ เนื่องจากผู้ว่าฯ มีอะไรไปกระตุ้นนิดนึง เกิดการระคายก็จะขยับตัว การเจาะคอจะช่วยให้ไม่รู้สึกอึดอัด เมื่อดูดเสมหะ ได้มากขึ้น ซึ่งทุกอย่างดำเนินการเรียบร้อยดี และได้มีการแจ้งภรรยาผู้ว่าฯ และลูกสาว ให้รับทราบและอนุญาตเรียบร้อยแล้ว จากการเจาะคอทำให้การรับออกชิเจนดีขึ้น ลมผ่านเข้าปอดได้ดี การควบคุมการหายใจดีขึ้น การติดเชื้อ ไข้ลดลง ให้ยาปฏิชีวนะตอบสนองได้ดี

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบา

ศ.นพ. ประสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะแพทย์ที่ให้การรักษา เมื่อเวลา 11.00 น. และครบ 24 ชั่วโมงช่วงเย็นตอน 20.00 น. ได้มีการนำตัว เอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ ตรวจดูการทำงานปอด ว่าโควิดได้เข้าไปทำลายเนื้อปอดมากน้อยแค่ไหน และเหลือเนื้อปอดอยู่เท่าไหร่ เพราะเป้าหมายเมื่อผู้ว่าฯ กลับบ้านต้องไม่ใส่เครื่องช่วยหายใจ และเลยดูไปถึงการทำงานของสมองด้วย จากการตรวจหาเชื้อโควิดในผู้ว่าฯ ไม่พบ โควิด 2 รอบ ผลการทำเอ็กซเรย์คอมฯ ปอดมีการอักเสบ และเนื้อปอดบางส่วนมีพังผืดเกิดขึ้นแสดงว่า โควิดเข้าไปทำลายเนื้อปอด และทิ้งรอยไว้ ส่วนหลอดเลือดในปอดเรียบร้อยดี ดูสมองก็เรียบร้อยดี ทำให้สบายใจมากขึ้น โดยวันนี้จะมีการดูดน้ำออกจากหลอดลม เพื่อนำตรวจโควิดอีกครั้ง และดูการอักเสบ และดูถึงระดับเซลล์ในหลอดลม เพื่อเตรียมให้ยาบางอย่าง ในการลดการอักเสบ และยาลดการสร้างพังผืดในปอด ซึ่งต้องรอดูผลการให้ยาใน 72 ชม. ว่าระบบทุกอย่างดีขึ้นหรือไม่ ทั้งลดการอักเสบ การติดเชื้อ

“การเจาะคอของผู้ว่าฯผ่านมา 48 ชม. คนส่วนใหญ่มักตกใจ ถ้าเห็นคนไข้หนักเจาะคอ และกล่าวว่าขณะนี้พยายามซื้อเวลาควบคุมการติดเชื้อในปอดและจำเป็นต้องทำ การปลูกถ่ายปอด ยังไม่ถึงเวลา คนทั่วโลกมีการพูดถึงรายงานในวารสารการแพทย์ว่า โควิดเข้าทำลายเนื้อปอดจนไม่เหลือและไม่สามารถหายใจได้ตัวเอง ออกซิเจนในเลือด ไม่พอ บางประเทศมีการเปลี่ยนปอด เอาปอดของคนอื่นมาใส่แต่ไม่ใช่ทุกรายทำแบบนี้ การรักษาอยากให้อยู่ด้วยอวัยวะของตัวเอง มากกว่า วิธีนี้จึงเป็นวิธีสุดท้าย พร้อมยอมรับ ที่ผ่านเคยมีคนไข้โควิดอาการหนักเจาะคอ บางคนก็ใช้ปอดเทียม บางคนก็รอดชีวิต และบางคนก็เสียชีวิต ฉะนั้นอย่าคิดว่าโควิดรอบนี้ไม่หนัก เพราะคนที่มีอาการหนักก็รุนแรงมาก” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี