ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.ประกาศ 1 พ.ค. เปิดจองฉีดวัคซีนโควิด19 “ผู้สูงอายุ-โรคประจำตัว 7 กลุ่ม” 16 ล้านคน ผ่านไลน์ “หมอพร้อม” เริ่มฉีด มิ.ย.-ก.ค. 64 ส่วนประชาชนทั่วไปเริ่มลงทะเบียนจอง 1 ก.ค. 64 พร้อมฉีดเดือน ส.ค. ย้ำไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนจองวันแรก เพราะวัคซีนมีครบและเพียงพอทุกคน ขณะที่ญาติผู้สูงอายุลงทะเบียนแทนได้

วันที่ 28 เม.ย.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวการลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด 19 ในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี และโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคผ่านไลน์หมอพร้อม ว่า ช่วง มิ.ย.จะมีวัคซีนล็อตใหญ่จากแอสตราเซนเนกา 6 ล้านโดส และเดือน ก.ค. เข้ามา 10 ล้านโดส ซึ่งจะนำมาฉีดให้แก่ประชาชน 2 กลุ่ม คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค รวม 16 ล้านคน ซึ่งจะฉีดภายใน 2 เดือนนี้คือ มิ.ย. - ก.ค. โดยสามารถลงทะเบียนฉีดวัคซีนได้ผ่านไลน์หมอพร้อม ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ ขณะนี้ได้รวบรวมข้อมูล 16 ล้านคนเข้าระบบแล้ว แต่ต้องแจ้งก่อนว่า อาจจะยังมีตกหล่น 5% คือข้อมูลอาจยังตกหล่นในคลินิกหรือยังไม่มีข้อมูลใน รพ. แต่หน่วยบริการจะพยายามนำข้อมูลเข้าระบบให้ครบถ้วน ส่วนประชาชนกลุ่มที่เหลือจะได้รับการฉีดวัคซีนตามการจัดสรรในแต่ละเดือนตั้งแต่ ส.ค.ถึง ธ.ค.ต่อไป

นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ สธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด 19 กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันว่า คนไทยทุกคนรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 แน่นอนตามความสมัครใจ ส่วนการจัดกลุ่มเป้าหมาย แบ่งการบริหารจัดการเป็น 5 กลุ่ม คือ 1. บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 1.2 ล้านคน 2.บุคลากรอื่นๆ ด่านหน้า 1.8 ล้านคน ซึ่งสองกลุ่มนี้จะได้รับวัคซีนครบถ้วนในเดือน เม.ย.- พ.ค.นี้ ถือเป็นการฉีดในระยะที่ 1

3.ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค รวม 4.3 ล้านคน ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิดระหว่างการรักษา โรคเบาหวาน และโรคอ้วน 4.ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 11.7 ล้านคน ทั้งนี้ ที่ให้สองกลุ่มนี้ก่อนกลุ่มอื่น เพราะข้อมูลการเสียชีวิต 100 กว่าราย ทุกรายมีโรคประจำตัวหรือเป็นผู้สูงอายุ วัคซีนที่ศึกษาวิจัยออกมาสามารถช่วยลดการตาย ลดการนอน รพ. จึงเป็นเป้าหมายหลักต้องฉีดให้สองกลุ่มนี้ก่อน เพื่อไม่ให้มีการสูญเสีย เจ็บหนัก และระบบสาธารณสุขเดินหน้าไปได้ หมอไม่ต้องทำงานหนักในการดูแล ถือเป็นการฉีดระยะที่ 2 โดย รพ.ทุกแห่งนำรายชื่อและข้อมูลสองกลุ่มนี้เข้าไลน์หมอพร้อมแล้ว โดยสามารถจองคิวฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ จะเริ่มฉีดวันที่ 7 มิ.ย. - 31 ก.ค. 2564 ต่อไป

และ 5. ประชาชนอายุ 18-59 ปี จำนวน 31 ล้านคน จะเริ่มเปิดจองฉีดวัคซีนวันที่ 1 ก.ค. และเริ่มฉีดวัคซีนส.ค. ต่อไป อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลสามารถหาวัคซีนมาเพิ่มเติมได้ก็สามารถเสริมเพิ่มไปได้ เช่น บางตัวเหมาะกับคนตั้งครรภ์หรืออายุ 12-18 ปีก็เสริมเข้าไปได้ หากมีปัญหาสถานการณ์ เช่น ครูจำเป็นต้องฉีดเพราะอาจติดจากเด็ก คนขับรถสาธารณะ การท่าอากาศยาน หรือมีพื้นที่ระบาด ก็หาวัคซีนมาได้ก็เสริมเพิ่มเติมได้ เป็นการดูตามสถานการณ์ในแต่ละช่วง

"วันที่ 28 เม.ย.ได้เปิดตัวไลน์หมอพร้อมเวอร์ชัน 2 โดยเพิ่มฟังก์ชันระบบจองคิวฉีดวัคซีน โดยสามารถเพิ่มเพื่อนไลน์หมอพร้อม ลงทะเบียนใช้งานให้เรียบร้อย กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลักให้ถูกต้อง จองฉีดวันเวลาที่สะดวก อาจเลือก รพ.ที่รักษาตัวหรือ รพ.ในภูมิลำเนา หรือหน่วยฉีดวัคซีนภายนอก เช่น ศูนย์การค้าที่จังหวัดต่างๆ จัดตั้งขึ้น หากต้องการจองคิวฉีดแทนคนในครอบครัว สามารถแก้ไขข้อมูลส่วนตัว กดเพิ่มบุคคลอื่นเข้าไปได้ไม่จำกัด เพื่อจองให้พ่อแม่ได้ ส่วนภูมิภาคไม่มีโทรศัพท์สามารถจองได้ที่ รพ.ใกล้บ้าน โทร.หา รพ. หรือติดต่อ อสม.หมู่บ้าน ได้รับวัคซีนแน่นอน" นพ.โสภณกล่าว

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. กล่าวว่า การเกิดภูมิคุ้มกันระดับประเทศต้องฉีดให้ได้ 70% ของประชากร หรือประมาณ 50 ล้านคน คนละ 2 โดส หรือประมาณ 100 ล้านโดส การวางแผนให้ฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมายจึงสำคัญ ซึ่ง สธ.มีหน่วยบริการฉีดวัคซีน 1,373 แห่ง หากฉีดวันละ 300 ราย ก็สามารถฉีดได้วันละ 3 แสนคน หรือเดือนละ 10 ล้านโดสได้ตามเป้าหมายพอดี นอกจากนี้ ยังมีการออกหน่วยบริการฉีดภายนอก เช่น ศาลาประชาคม สนามกีฬา เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทวัคซีนจะจัดส่งวัคซีนให้เราตามแผน

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การจัดส่งวัคซีนจำนวนมากไปจังหวัดต่างๆ จะเริ่มดำเนินการช่วงปลาย พ.ค. ซึ่งเรามีประสบการณ์ส่งวัคซีนแล้ว 2 ล้านกว่าโดส หากวางแผนที่ดี เส้นทางแนวทางการส่งสามารถไปถึง รพ.ได้ใน 24 ชั่วโมง รพ.ก็สต๊อกวัคซีนได้เพียงพอกับการดำเนินงานในแต่ละสัปดาห์ ที่สำคัญยังมีระบบในการติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนด้วย

เมื่อถามถึงกรณีรองรับหากคนเข้ามาลงทะเบียนจำนวนมากจนระบบอาจล่มได้ นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี ที่ปรึกษาระดับกระทรวง สธ. กล่าวว่า เราประมาณการณ์คนเข้าวันแรก 2 หมื่นคนต่อวินาที มีการเตรียมระบบรองรับประมาณ 5 เท่า และสามารถขยายเพิ่มเติมในระบบคลาวด์ได้อีก นอกจากนี้ ยังมีการตัดบางฟังก์ชันที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน เพื่อให้ระบบวิ่งได้เร็วขึ้น ฟังก์ชันหลายอันเอาออกไปก่อน และหากไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย 16 ล้านคนขอว่าอย่าเพิ่งเข้ามา เพราะเข้ามาก็ยังไม่ปรากฏรายชื่อ เนื่องจากระบบล็อกเอาไว้ในกลุ่มสูงอายุและโรคเรื้อรัง เหมือนช่วงแรกที่ล็อกไว้ในบุคลากรทางการแพทย์

เมื่อถามว่า ในวันที่ 1 พ.ค.ที่เปิดให้กลุ่มสูงอายุและโรคประจำตัวลงทะเบียนก่อน กังวลหรือไม่ว่าจะแห่ลงทะเบียนภายในวันเดียวจนระบบรองรับไม่ได้ นพ.พงศธร กล่าวว่า ย้ำว่าวัคซีนมีเพียงพอแน่นอน ไม่ต้องรีบเข้ามาจองตั้งแต่วันแรก เพราะวัคซีนพอดีกับจำนวนคน และบางคนอาจยังไม่อยากฉีด เนื่องจากเป็นการฉีดแบบสมัครใจ ซึ่งก็สามารถมาฉีดภายหลังได้ หรือสามารถโทรศัพท์ไปยังโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) บอกว่าอยากมาฉีดเมื่อไหร่ หรือแจ้งทางอสม.ก็ได้เช่นกัน

“ ส่วนกรณีชื่อกับภูมิลำเนาอยู่คนละพื้นที่ หากมีข้อมูลรักษาใน รพ.ต่างพื้นที่ก็จะสามารถเลือกฉีดวัคซีนใน รพ.ที่มีภูมิลำเนา และมีประวัติการรักษาได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนบุตรหลานที่จะลงทะเบียนให้กับพ่อแม่หรือผู้สูงอายุในครอบครัวสามารถทำได้ 2-3 คนก็ได้ เพราะแต่ละครั้งต้องลงทะเบียนผ่านเลขบัตรประจำตัวประชาชน แต่หากมีจำนวนมาก แนะนำว่า แจ้งไปทางโรงพยาบาลเลยก็จะดีกว่า” นพ.พงศธร กล่าว

(อ่านต่อ : วิธีลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนโควิด19 ผ่าน “หมอพร้อม” เวอร์ชัน 2)

(อ่านต่อ : ไขข้อสงสัยลงทะเบียน “หมอพร้อม” 1 พ.ค.นี้ “ผู้สูงอายุ - 7กลุ่มโรคเรื้อรัง”)