ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข เผยรายละเอียดวัคซีนโควิด19 ปี 65 ฉีดรวม 86 ล้านโดส ทั้งเข็ม 1 สำหรับคนที่ตกค้างในปี 64 และต้องฉีดเข็มสองต่อเนื่องจะมีอีก 14 ล้านคน และเข็ม 3 อีก 66 ล้านโดส

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4 ต.ค.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนสะสมแล้ว 55,150,481 โดส เป็นเข็มที่ 32,987,918 รายคิดเป็น 45.8% เข็ม 2 จำนวน 20,696,791 ราย คิดเป็น 28.7% และเข็ม 3 จำนวน 1,465,772 ราย คิดเป็น 2 ล้านโดส ทั้งนี้ คาดประมาณจำนวนวัคซีนที่จะให้บริการในปี 2564-2565 คือ ปี 2564 ราว 119-120 ล้านโดส เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 60 ล้านโดส เข็มที่ 2 จำนวน 52 ล้านโดส และเข็มที่ 3 จำนวน 7 ล้านโดส

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ส่วนปี 2565 จะฉีดรวม 86 ล้านโดส ได้แก่ เข็ม 1 สำหรับคนที่ตกค้างในปี 2564 โดยเฉพาะอายุ 3-11 ปี ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนตัวใดที่ อย.รับรองให้ฉีดได้ แต่คาดว่าจะมีการรับรองวัคซีนในเร็วๆ นี้ จะวางแผนปี 2565 ว่าเด็กอีก 6 ล้านคนหรือตกค้างจะได้รับเข็มหนึ่ง และต้องฉีดเข็มสองต่อเนื่องจะมีอีก 14 ล้านคน (ผู้ที่ยังไม่ได้เข็ม 2 ในปี 2564 ประมาณ 8 ล้านคน และเข็มสองในเด็ก 3-11 ปีอีก 6 ล้านคน) และเข็มสามคาด 66 ล้านโดส รัฐบาลจึงให้กรมควบคุมโรคไปจัดหาวัคซีน ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วมีการเซ็นสัญญาแอสตร้าเซนเนก้า 60 ล้านโดส ส่วนที่เหลือกำลังทยอยทำสัญญาต่อเนื่องไป เพื่อให้มีวัคซีนเพียงพอแก่ประชาชนในปี 2565

“ขณะนี้มีข้อมูลว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสไม่ว่าจะเป็นสูตรซิโนแวค 2 เข็มหรือแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม เมื่อเวลาผ่านไปภูมิคุ้มกันจะลดลง เพราะฉะนั้นจะต้องมีการฉีดเข็ม 3 กระตุ้นหรือบูสเตอร์โดสมีความสำคัญและจำเป็น” นพ.โอภาส กล่าว

เมื่อถามว่า วัคซีนโควิด-19ที่จะฉีดให้กับกลุ่มเด็กอายุ 3-11 ปีจะเป็นวัคซีนประเภทไหน นพ.โอภาส กล่าวว่า ต้องขึ้นกับวัคซีนที่ผ่านการรับรองในเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัยในการฉีดในเด็กจาก อย. ขณะนี้มีหลายวัคซีนที่กำลังรวบรวมข้อมูลและยื่นให้อย.พิจารณา ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าวัคซีนหลายชนิดที่มีการฉีดมีความปลอดภัยต่อเด็ก เพียงแต่รอข้อมูลเป็นทางการอีกครั้ง คาดว่าไม่น่าเกินปี 2565 จะมีวัคซีนฉีดให้เด็กกลุ่มนี้