ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“อนุทิน” พร้อม “ตรีนุช” ให้กำลังใจนักเรียนฉีดวัคซีนโควิด “ไฟเซอร์”  พบสมัครใจฉีดเกือบ 4 ล้านคน ย้ำต้องเร่งดำเนินการให้ฉีดแล้วเสร็จภายในเดือนนี้ ขณะที่วัคซีนไฟเซอร์เข้ามาอีก 1.5 ล้านโดสวันนี้ ตามกำหนดในสัญญา สัปดาห์หน้าจะเข้ามาอีก 1.5 ล้านโดส โดย ต.ค.จะเข้ามาทั้งหมด 8 ล้านโดส

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2564 ที่โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมช.ศธ.) นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศธ. และผู้บริหารทั้ง 2 กระทรวง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนโควิด 19 สำหรับเด็กอายุ 12-17 ปี ของ ร.ร.สุรศักดิ์มนตรี ซึ่งมีนักเรียนทั้งหมด 2,929 คน แจ้งความประสงค์ฉีด 2,505 คน เพื่อรองรับการเปิดเรียนอย่างปลอดภัย

นายอนุทิน กล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์เป็นวัคซีนที่ได้รับการศึกษาและรับรองให้ฉีดในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป วันนี้ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีความห่วงใยต่อลูกหลาน จึงเร่งให้รัฐบาลจัดซื้อวัคซีนไปเซอร์มาฉีดให้ครอบคลุมให้เร็วที่สุด เบื้องต้นนักเรียนมีประมาณ 5 ล้านคน สมัครใจฉีดประมาณเกือบ 4 ล้านคน ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนนี้ เพื่อจะได้เปิดเรียนให้ทันภายในเดือนพ.ย. ซึ่งการฉีดวัคซีนวันนี้ตั้งเป้า 2,500 คน ส่วนที่เหลือราวๆ 1 ล้านคน ก็จะมีการทำความเข้าใจกับนักเรียนและผู้ปกครองต่อไป โดยการฉีดวัคซีนนั้นมีข้อดีมากกว่าการไม่ฉีด และในการฉีด 2 วันที่ผ่านมาไม่พบผลข้างเคียงที่น่ากังวล ไม่มีอะไรที่น่าวิตก ที่เจอคืออาการทั่วไปมีไข้ อ่อนเพลียบ้าง ดังนั้นหลังฉีดให้พักผ่อน ดื่มน้ำมากๆ อย่างไรก็ตาม หลังการฉีดวัคซีนและต้องใช้เวลา 2-3 สัปดาห์จึงจะสร้างภูมิคุ้มกัน แต่ก็ขอย้ำว่าถึงแม้จะมีการฉีดวัคซีนแล้วขอให้ลูกหลานมีการป้องกันตัวเองอย่างเข้มข้นในวิถีชีวิตใหม่หรือ New Normal ให้เว้นระยะห่าง มีการสวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอ ล้างมือบ่อยๆ เป็นต้น

"ลุง ลุงตู่ และป้าๆ ที่มาฉีดวัคซีน มีความปรารถนานี้ในการมาฉีดวัคซีนให้กับลูกๆ หลานๆในวันนี้ คิดว่าทุกอย่างจะมีความเรียบร้อยราบรื่นก่อนเปิดภาคเรียนในเดือนพ.ย.นี้ และเดินหน้าสู่การเปิดประเทศอย่างเข้มแข็ง เราต้องการให้ลูกหลานได้ใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น คือการมีเพื่อนฝูง สังคม ลูกลหลานเหล่านี้ก็จะเติบโตมาดูแล ลุงๆ ป้าๆ ต่อไป สานต่ออนาคตของประเทศชาติ" นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้มีวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาอีก 1.5 ล้านโดส ตามกำหนดในสัญญา สัปดาห์หน้าจะเข้ามาอีก 1.5 ล้านโดส โดย ต.ค.จะเข้ามาทั้งหมด 8 ล้านโดส ซึ่งเพียงพอกับการฉีดในนักเรียน ส่วนที่เหลือจะฉีดในคนทั่วไปจะเป็นเข็มแรกหรือบูสเตอร์ก็อยู่ที่ดุลพินิจของแพทย์

ด้าน น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า ขณะนี้มีนักเรียนฉีดวัคซีนแล้วประมาณ 4 หมื่นกว่าคน ส่วนผู้ปกครองมีความประสงค์ให้บุตรหลานฉีดวัคซีนมีเพิ่มขึ้นกว่าแสนราย จากที่แจ้งความประสงค์ไว้ 71% เพิ่มมาเป็น 80% ทั่วประเทศ

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org