ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข ตอบข้อสงสัย!  คนฉีด “ซิโนฟาร์ม” วัคซีนนอกเหนือรัฐครบ 2 เข็ม ต้องกระตุ้นอย่างไร พร้อมแจงชัดกรณีวัคซีน mRNA ครึ่งโดสกับเต็มโดส การใช้กระตุ้นเป็นเข็ม 3 ประสิทธิภาพแบบไหนดีกว่ากัน...

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 ต.ค. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคำแนะนำการเลือกใช้วัคซีนทางเลือกแบบเสียค่าใช้จ่ายเอง เพื่อใช้เป็นเข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ว่า ดีที่สุดคือตามที่สธ.แนะนำจะได้ไม่ต้องเสียเงินเองด้วย เพราะว่าวัคซีนทุกๆเข็ม ถ้าเป็นส่วนที่จัดให้โดยสธ. ประชาชนที่มารับวัคซีนจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เป็นการให้บริการจากภาครัฐไปยังประชาชนทุกคน อย่างเพียงพอ มีคุณภาพ อีกทั้ง กรณีการออกใบรับรองวัคซีน หรือวัคซีนพาสปอร์ต ถือว่าจะมีการรองรับจากการฉีดที่รัฐเป็นผู้รับผิดชอบ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่สะดวกกว่า

เมื่อถามว่าสธ.พร้อมและมีวัคซีนรองรับการฉีดเข็ม 3 กระตุ้นฟรีให้กับคนได้รับวัคซีนเชื้อตาย “ซิโนฟาร์ม” ครบ 2 เข็ม เมื่อถึงเวลาต้องได้รับการกระตุ้นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าคณะกรรมการฯมีมติให้สธ.ดำเนินการได้ ก็จะยินดีที่จะทำ ซึ่งวัคซีนที่สธ.จัดหาคำนึงถึงจำนวนประชากรและกลุ่มเป้าหมายทั้งประเทศอยู่แล้ว มีความเพียงพออยู่แล้ว ขณะนี้จึงขึ้นอยู่กับคำแนะนำของคณะกรรมการฯ ฝ่ายวิชาการว่าในส่วนของวัคซีนที่ไม่ได้ถูกดำเนินการจัดหาโดยภาครัฐ เมื่อศึกษาแล้วว่าจะทำการฉีดกระตุ้นอย่างไร สธ.ก็พร้อมปฏิบัติตาม แต่จะดำเนินการโดยพลการไม่ได้

“ดังนั้น ผู้ที่ดำเนินการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชน ในวันแรกๆอาจจะยังไม่นึกถึงเข็ม 3 แต่เมื่อเข้าสู่สถานการณ์ปัจจุบันแล้ว ผู้ที่ได้จัดหาวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชนก็ควรจะต้องศึกษาถึงระดับภูมิคุ้มกันแล้ว ควรจัดเข็ม 3 ให้ประชาชนเมื่อไหร่ ก็ควรดำเนินการได้เลย เพราะมีวิธีการช่องทางต่างๆรองรับอยู่แล้ว” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีผู้รับวัคซีนชนิดเชื้อตายครบ 2 เข็ม จะกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยเชื้อตายได้อีกหรือไม่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า ข้อมูลวิชาการ ที่คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคได้ทบทวนแล้ว การฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตาย 2 เข็มแล้วกระตุ้นด้วยชนิดเชื้อตาย ภูมิคุ้มกันจะขึ้นไม่ค่อยดีมากนัก สู้การกระตุ้นด้วยวัคซีนชนิดไวรัลแว็กเตอร์ หรือแอสตร้าเซนเนก้า และชนิดmRNA หรือไฟเซอร์จะดีกว่า ขณะนี้คำแนะนำคือหากฉีดเชื้อตาย 2 เข็มควรจะกระตุ้นด้วยชนิดวัคซีนที่แตกต่างกัน

เมื่อถามย้ำว่า กรณีคนรับวัคซีนซิโนฟาร์ม 2 เข็ม สธ.จะดำเนินการฉีดกระตุ้นอย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า ตามนโยบายที่รองนายกฯให้ไว้ คือ คนที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็มครบในช่วงเดือนมี.ค.-มิ.ย.จะต้องได้รับการกระตุ้นด้วยเข็มที่ 3 โดยจะไล่ตามเดือนที่ฉีดครบเป็นหลัก ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเชื้อตายอีกยี่ห้อ หากฉีดครบ 2 เข็มแล้วถึงเวลาที่ต้องได้รับเข็ม 3 กระตุ้น และยินดีที่จะมารับวัคซีนที่สธ.จัดหา ซึ่งนโยบายก็ให้ดูแลทุกคน แต่จะต้องนับช่วงเวลาของการฉีดครบ 2 เข็ม โดยส่วนใหญ่คนที่ฉีดเชื้อตายยี่ห้ออื่น ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องได้รับการกระตุ้น เมื่อถึงช่วงเวลาที่ภูมิคุ้มกันลดลงก็จะฉีดกระตุ้น

เมื่อถามว่า การกระตุ้นด้วยวัคซีนชนิดmRNA แบบใช้วัคซีนครึ่งโดส หรือ 50 ไมโครกรัม มีงานวิจัยรองรับหรือไม่ในปัจจุบัน นพ.โอภาส กล่าวว่า งานวิจัยบ่งว่าครึ่งโดสน่าจะพอ แต่ยังไม่ทราบว่าภูมิคุ้มกันจะลดลงได้แค่ไหน อย่างไร ต้องรออีกครั้งเพื่อให้เกิดความรอบคอบในการจัดการ ทั้งนี้ โดยหลักการทั่วไปคนที่ฉีดวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็ม ถ้าเกิน 6 เดือนแล้วควรจะฉีดทันที แต่ในช่วง 3-6 เดือนควรจะฉีดเมื่อไหร่ จะพิจารณาอีกครั้ง

“อ้างอิงคำแนะนำอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งเป็นคณะกรรมการอย่างเป็นทางการตามกฎหมาย ยังแนะนำให้ฉีดกระตุ้นเต็มโดส เนื่องจากการฉีดครึ่งโดส แม้ว่าข้อมูลเบื้องต้นว่าอาจจะมีผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี แต่ยังไม่รู้ว่าภูมิฯที่ขึ้นนั้นจะอยู่ได้นานแค่ไหน ลดเร็วแค่ไหน นี่เป็นคำแนะนำอย่างเป็นทางการของอนุกรรมการฯ” นพ.โอภาสกล่าว

เมื่อถามว่ากรณีราชวิทยาลยจุฬาภรณ์ประกาศให้จองวัคซีนโมเดอร์นาครึ่งโดสต้องมีการหารือกันหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องสอบถามทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

(ข่าวเกี่ยวข้อง : ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เปิดจองวัคซีนเข็มกระตุ้น “โมเดอร์นา” 50 ไมโครกรัม เข็มละ 555 บาท ใช้เป็นเข็ม 3 หรือ 4)

 

ข่าวเกี่ยวข้อง : ศิริราชเปิดผลศึกษาวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันเข็ม 3 ทั้ง “แอสตร้าฯ-ไฟเซอร์”

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org ​