ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองนายกฯ -รมว.สธ. ลั่นไม่ได้ให้ทิ้งวัคซีนโมเดอร์นา แต่ให้รีบรับวัคซีน หากมาช้าให้รับของรัฐบาลได้ ส่วนที่จองไปแล้วนั้น จะเรียกร้องเอาคืนจากรพ.เอกชนก็เป็นเรื่องส่วนตัว หากไม่ได้จริงๆ อาจแสดงเจตจำนงบริจาคแทน เป็นการถ้อยทีถ้อยอาศัย พร้อมติงวัคซีนบริจาคมาถึงก่อน  ต้องดูสาเหตุมีการใช้ช่องว่างทางสัญญาเลื่อนหรือไม่  แบบนี้ไม่ถูกต้อง กระทรวงฯต้องบันทึกจะทำอะไรร่วมต้องพิจารณามากขึ้น

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงเป้าหมายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ครบ 100 ล้านโดส รวมถึงแผนการฉีดวัคซีนในผู้ที่ยังไม่ได้รับเข็มแรก ว่า กรมควบคุมโรครับนโยบายไปแล้ว ซึ่งตอนนี้จะเหลือกลุ่มที่ยังไม่ได้เข้ารับวัคซีนเข็มแรกจำนวนหนึ่ง ตอนนี้ไม่น่าถึง 10 ล้านคน ซึ่งอาจจะเข้าไม่ถึงจริง ๆ เพราะมีปัญหาทางสภาพแวดล้อม ทาง สธ. ก็ได้จัดหน่วยเคลื่อนที่ออกไปนำคนเข้ามาฉีด และไปฉีดให้เขาหากไม่สามารถเข้ามาถึงสถานพยาบาลได้ ส่วนอีกกลุ่ม คือ กลุ่มที่รอวัคซีนที่ตัวเองต้องการ ตรงนี้เป็นปัญหาเล็กน้อย เพราะกรณีการสั่งจองซื้อวัคซีนโดยใช้งบประมาณของตัวเองแต่วัคซีนไม่เข้ามาตามกำหนด ทาง สธ. ก็ได้รับวัคซีนตระกูลเดียวกันเข้ามาแล้ว ทั้งวัคซีนไฟเซอร์ และโมเดอร์นาที่รับบริจาคจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่เป็นชนิด mRNA เช่นกัน

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ไม่เข้าใจทำไมวัคซีนที่บริจาคมาถึงก่อนวัคซีนที่สั่งซื้อตามสัญญา ก็ต้องไปดูว่าบริษัทที่เป็นคู่สัญญาจัดส่งวัคซีน ทำไมถึงไม่ปฏิบัติตามสัญญาและใช้ช่องว่างทางสัญญามาเลื่อนกำหนดไปเรื่อยๆ แบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกนัก แม้จะเป็นกรณีฉุกเฉิน สั่งซื้อต้องยอมรับสภาพนี้ 

แต่อย่าลืมว่า การที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา กระทรวงฯ บันทึกไว้ ว่า ต้องระวังการเซ็นสัญญากับบริษัทนี้ อีกหน่อยจะซื้ออะไรต้องพิจารณามากเป็นพิเศษ หาความน่าเชื่อถือไม่ได้ อาจปรับอะไรไม่ได้ แต่เที่ยวหน้าอาจจะไม่มี เพราะเราต้องดูเจตนารมณ์ เมื่อคุณต้องการให้เราซื้อ เมื่อซื้อแล้วจ่ายเงินแล้ว แต่คุณไม่ส่ง ก็ต้องรับผิดชอบ ต่อให้ไม่ใช่ทางแพ่ง แต่ต้องรับผิดชอบทางชื่อเสียง อนาคต โอกาสการทำเสนอผลิตภัณฑ์ต่อ สธ. และรัฐบาลไทย คงจะไม่สะดวกนัก” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามถึงประเด็นการทิ้งวัคซีนโมเดอร์นาที่เป็นทางเลือก แล้วให้มารับวัคซีนของภาครัฐก่อน นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ไปเขียนว่าทิ้ง แต่ตนบอกว่าให้รีบมารับ วัคซีนที่ดีที่สุด คือ วัคซีนที่เข้าตัวเราแล้ว ตอนนี้เรามีวัคซีนเพียงพอ ที่ไปจองไว้ หากยังฉีดให้ไม่ได้ก็มาฉีดของรัฐบาล ที่เรามีทั้งไฟเซอร์ และโมเดอร์นา แต่การฉีดจะต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์แต่ละสถานการณ์ ทั้งนี้ วัคซีนที่รัฐบาลจัดให้คนไทย เป็นวัคซีนที่ดีทั้งหมด แต่คงไม่สามารถบอกการันตีว่า หากจองโมเดอร์นากับภาคเอกชน แล้วจะมาได้รับโมเดอร์นาภาครัฐได้ อันนี้ขึ้นอยู่กรมควบคุมโรคจะมีมาตรการอย่างไร

เมื่อถามต่อว่าในส่วนของประชาชนที่เสียดายเงินและยังรออยู่ นายอนุทิน กล่าวว่า คิดง่ายๆ ว่า วันนี้มาฉีดไฟเซอร์เป็น mRNA เหมือนกัน เงินที่จองโมเดอร์นาจองไปเรียบร้อยแล้ว ก็เหมือนได้รับวัคซีนเหมือนกัน ส่วนที่เราจองไป ตนไม่ทราบว่าจะเรียกร้องเอาคืนจากรพ.เอกชนได้หรือไม่ เป็นเรื่องส่วนตัว แต่หากไม่ได้จริง ๆ ก็อาจแสดงเจตจำนงไปให้ รพ.เอกชน เอาไปบริจาค ฉีดให้กับบุคคลอื่น ที่รพ.เห็นควร ก็จะเป็นการถ้อยทีถ้อยอาศัย ก็จะไม่มีปัญหาอะไร เท่ากับเราได้วัคซีนเหมือนกัน

เมื่อถามว่าเราจะต้องหารือกับคณะกรรมการวัคซีนทางเลือกอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ในนั้น ซึ่ง สธ. เราบอกแล้วว่า มีวัคซีนแล้ว ขออย่ารอ โดยเฉพาะคนไม่ได้รับเข็มแรก ขอความกรุณาให้รีบมา ตนมอบนโยบายให้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ว่า ให้วอล์กอินได้ ไม่ต้องจอง ไม่ต้องโทร

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org