ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ประจำวันที่ 14 ธันวาคมว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยผู้สูงอายุ ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงมีคำปรารภและข้อสั่งการมอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมห่างชาติ ได้ไปพิจารณาแนวทางในการเพิ่มเงินผู้สูงอายุแบบขั้นบันไดเพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถดูแลตัวเองได้

นายธนกรแถลงอีกว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ชื่นชมการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรืออสม.ทั่วประเทศที่ได้ช่วยทำงานให้กับประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้สนับสนุนค่าใช้จ่ายอสม.ต่อไปอีก 6 เดือน

นอกจากนี้ครม.มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (ฉบับที่ 3) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยเห็นชอบรายการค่าบริการจำนวน 874 รายการ เพิ่มเติมในหมวดที่ 3 ค่ายาและสารอาหารทางเส้นเลือด เพื่อปรับปรุงบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ UCEP ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ UCEP (ฉบับที่ 2) เนื่องจากพบว่าการดำเนินการที่ผ่านมาสถานพยาบาลไม่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายบางรายการที่มีความจำเป็นต้องใช้กับผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตโดยเฉพาะในกรณีเป็นโรครักษาร่วม (เช่น ป่วยเป็นโรคเรื้อรังแล้วมีอาการฉุกเฉิน) ซึ่งหากไม่รักษาโรคร่วมดังกล่าวแล้วจะรักษาอาการฉุกเฉินไม่ได้ จึงจำเป็นต้องเพิ่มยาบางรายการเข้ามาในบัญชี ทั้งนี้ ให้เสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานพยาบาลต่อไป ซึ่งคณะกรรมการสถานพยาบาล ในคราวประชุมครั้งที่ 10/2563 เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ได้มีมติเห็นชอบด้วยแล้ว

สำหรับค่ายาและค่าสารอาหารทางเส้นเลือด จำนวน 874 รายการที่เพิ่มขึ้นมานั้น เป็นรายการยาที่อยู่ในบัญชีข้อมูลยาและรหัสยามาตรฐานของไทย (Thai Medicines Terminology: TMT) ประกอบด้วยรายการ เช่น CELEBREX บรรเทาอาการอักเสบและอาการปวดในโรคข้อกระดูกเสื่อมและข้ออักเสบรูมาตอยด์ ราคา 29.188 บาท TAGAMET ยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำหรือกล้ามเนื้อ เพื่อยับยั้งสารฮิสตามีนที่ช่วยกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ใช้รักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก กรดไหลย้อน และหลอดอาหารอักเสบที่เกิดจากกรดไหลย้อน ราคา 6.05 บาท AGREMOL ใช้ในผู้ป่วยหลังผ่าตัด เพื่อป้องกันหลอดเลือดอุดตันในผู้ป่วยที่ใส่ลิ้นหัวใจเทียม ราคา 6.55 บาท BLOPRESS (TAKEDA PHARMACEUTICAL) รักษาโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจล้มเหลว ราคา 42.184 บาท DYNASTAT (SEARLE) ระงับอาการปวดหลังผ่าตัด ราคา 279.7435 บาท

นอกจากนี้ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นายมานิต ธีระตันติกานนท์ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป และเห็นชอบแต่งตั้ง นายพงศธร อาสนศักดิ์ นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม) กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลสงขลา สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดสงขลา สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม) โรงพยาบาลสงขลา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.มีมติเห็นให้ใช้เงินกู้จากพรก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 จำนวน 642 ล้านบาทตามโครงการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงที่เกิดการระบาด เป็นการอนุมัติเงินเพิ่มเติมจากเดิมที่ครม.ได้อนุมัติงบเยียวยาผู้ปกครองที่มีลูกหลานอยู่ในระดับประถม มัธยม และอุดมศึกษาไปแล้ว ครั้งนี้เพิ่มเติมให้อีก 642 ล้านบาท จากเดิมที่อนุมัติไป 23,226 ล้านบาท การอนุมัติเพิ่มเติมครั้งนี้จะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายอีก 320,000 คน เท่ากับว่าโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายฯ ดูแลนักเรีบนกว่า 11.9 ล้านคน

“กลุ่ม 320,000 คนที่จะได้รับการดูแลในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่ตกหล่นจากก่อนหน้านี้ คือกลุ่มที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเช่นนักเรียนโรงเรียนในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวณชายแดน นักเรียนในสังกัดโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ รวมประมาณ 1.5 หมื่นคน อีกกลุ่มคือนักเรียนที่กำลังได้รับการศึกษาในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) ในสถานศึกษาที่สังกัดกศน. จำนวนประมาณ  231,000 คน และอีกกลุ่มคือเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครอบคลุมไปถึงสถานรับเลี้ยงเด็กเล็กกลางวันและโรงเรียนอนุบาลที่มีเด็กอยู่ในช่วงวัยเรียนอายุ 2-6 ปี ประมาณ 74,000 คน” น.ส.รัชดาแถลง

นอกจากนี้ ครม.ได้อนุมัติโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในด้านสาธารณสุขอีกหลายโครงการประกอบด้วย โครงการภายใต้กลุ่มโครงการห้องปฏิบัติการ จำนวน 4 โครงการ วงเงิน 223.6711 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการการพัฒนาศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์แอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพวัคซีนเพื่อรองรับการวิจัยพัฒนาและผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) โรคติดเชื้ออุบัติใหม่ และโรคอุบัติซ้ำ ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรอบวงเงิน 7.552 ล้านบาท โครงการพัฒนาห้องปฏิบัติการ ABSL3 คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี เพื่อการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยทางชีวภาพระดับสากล ของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กรอบวงเงิน 25.5038 ล้านบาท โครงการเพิ่มขีดความสามารถห้องปฏิบัติการทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนก่อนทดลองในมนุษย์ ของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กรอบวงเงิน 50.7747 ล้านบาท โครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและทดสอบวัคซีนและเภสัชภัณฑ์ในลิงมาร์โมเส็ท ของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กรอบวงเงิน 139.8406 ล้านบาท

นอกจากนี้ ครม.มอบหมายให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และสถาบันวัคซีนแห่งชาติเป็นหน่วยรับผิดชอบโครงการ ดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) สามารถจัดหาเงินกู้เพื่อใช้จ่ายโครงการตามแผนการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการเงินของภาครัฐ พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อ 15 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 พ.ศ. 2564 โดยเคร่งครัดตามขั้นตอนต่อไป พร้อมทั้งปรับแผนการดำเนินงานและเบิกจ่ายเงินโครงการให้เป็นปัจจุบัน โดยจะต้องดำเนินการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2565 พร้อมทั้งจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยงในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความชัดเจน และมอบหมายให้หน่วยงานเจ้าของโครงการในกลุ่มการจัดหาวัสดุและสิ่งก่อสร้าง จำนวน 45 โครงการ วงเงิน 13,674.4301 ล้านบาท ทบทวนข้อเสนอโครงการ ทั้งนี้ เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รวบรวมและจัดส่งข้อเสนอโครงการที่ได้ดำเนินการดังกล่าวเสนอให้ คกง. พิจารณาตามขั้นตอนภายในเดือนธันวาคม 2564

มอบหมายให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพประสานกับสำนักงบประมาณ (สงป.) และ สธ. ในการขอรับจัดสรรงบประมาณสำหรับค่าตอบแทนบุคลากรทางการแพทย์รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 ตามความจำเป็นและความเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป

อนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการมาตรการการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของนิสิต นักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐและภาคเอกชน (โครงการมาตรการการลดภาระฯ) โดยเพิ่มเติมกลุ่มเป้าหมายนักศึกษาระดับปริญญาตรีของสถาบันการอาชีวศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทั้งหมด 23 แห่ง จำนวน 9,949 คน ภายใต้กรอบวงเงินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 จำนวน 10,000 ล้านบาท และขยายเวลาสิ้นสุดโครงการมาตรการการลดภาระฯ จากเดิมสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นเดือนมกราคม 2565 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว