ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ประเทศเพื่อนบ้านเปิดด่านทางบก ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะปูทางไปสู่การเปิดพรมแดนทางอากาศร่วมกันอีกครั้งโดยเร็ว เพื่อจะช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับนโยบายผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศของหลายๆ ประเทศ ซึ่งจะเป็นโอกาสสนับสนุนนโยบายการท่องเที่ยวแบบ 2 ประเทศ 1 จุดหมาย (Two Countries One Destination) เป็นประโยชน์ร่วมกัน

ทั้งนี้ ภายหลังการเปิดประเทศทางบกของไทย ประเทศมาเลเซียได้ประกาศมาตรการที่สอดคล้องกับมาตรการของไทย โดยได้เปิดช่องทางด่านพรมแดนที่ติดต่อกับจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา จำนวน 3 ด่าน ได้แก่ ด่านถาวรด่านเปิงกาลันกุโบร์ – ด่านตาบา อ.ตากใบ ด่านบูกิตบุหงา – ด่านบูเก๊ะตา อ.แว้ง และ ด่านรันเตาปันยัง – ด่านสุไหงโก-ลก  โดยคนไทยที่จะเดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย ต้องมีหนังสือเดินทางหรือหนังสือผ่านแดน ลงทะเบียนผ่าน แอพพลิเคชั่น Mysejahtera ก่อนล่วงหน้า 2 วัน และเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มเท่านั้น ซึ่งจะอนุญาตเฉพาะบุคคล ไม่รวมยานพาหนะ ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น.

ขณะเดียวกัน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) เปิดประเทศเต็มรูปแบบ ในด่านสากลทุกด่าน โดยอนุญาตให้พลเมืองทุกสัญชาติ ที่ยกเว้นวีซ่ากับ สปป.ลาว สามารถเข้าประเทศลาวได้ไม่ต้องขอวีซ่า จั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม โดยแสดงมีผลตรวจ ATK ภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทาง และเมื่อถึง สปป.ลาว ไม่ต้องมีการตรวจซ้ำ หากไม่มีใบรับรองฉีดวัคซีนครบโดส

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศได้ประสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยหน่วยงานของไทยได้มีการเตรียมแผนรองรับสำหรับการอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไว้แล้ว โดยคาดว่าเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

นายธนกรกล่าวว่า ตั้งแต่ประเทศไทยผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ง่ายขี้น ยกเลิกมาตรการ"เทสต์แอนด์โก"ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นมา โดยช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมนักท่องเที่ยวเดินทางหลั่งไหลเข้าประเทศไทยแล้วมากกว่า 3 แสนคน โดยคาดการณ์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน 2565 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยเดินทางเข้าประเทศต่อเนื่องเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าเดือนละ 3 แสนคน ขณะที่ปลายปีตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม ซึ่งถือเป็นช่วง High Season ก็คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยประมาณไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ล้านคน เป็นสัญญาณส่งผลให้เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้ด้วย

“นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเตรียมความพร้อมในทุกด้านทั้งด้านการ Upskill และ Reskill แรงงานที่ทำงานด้านบริการการท่องเที่ยว การพัฒนาปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักรองรับการเปิดประเทศ   อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขภายใต้การท่องเที่ยววิถีใหม่ เพื่อให้ทุกคนท่องเที่ยวอย่างสนุกและปลอดภัยจากโควิด-19 ด้วย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว