ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“หมออัจฉรา” เผยความคืบหน้าทำงานร่วมสำนักงาน ก.พ. จัดทำ 5 แนวทางแก้ปัญหาภาระงาน เผยเสนออัตรากรอบอัตรากำลังขั้นสูง มีทุกสายงาน ทั้งวิชาชีพ และสายสนับสนุน ขณะที่เลขาธิการ ก.พ.ส่งเรื่องเข้าสำนักเลขาฯครม.แล้ว รอเสนอที่ประชุมพิจารณาตามขั้นตอน

จากกรณีกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ประชุมหารือร่วมสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหาภาระงาน ความก้าวหน้า และขวัญกำลังใจบุคลากร โดยได้มีการตั้งคณะทำงานร่วม สธ.และก.พ. เพื่อจัดทำรายละเอียดข้อเสนอแนวทางแก้ปัญหา 5 ข้อหลักๆ อาทิ  การเพิ่มตำแหน่งข้าราชการแต่ละวิชาชีพให้เต็มกรอบขั้นสูงในปี 2569 และความก้าวหน้าชำนาญการพิเศษของพยาบาล เป็นต้น และส่งให้ ก.พ.พิจารณาเพื่อนำเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณานั้น

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม  พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 อดีตผอ.สำนักงานบริหารโครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท(สบพช.) เป็นประธานร่วมกับรองเลขาธิการ ก.พ. ในคณะทำงานชุดดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเรื่องนี้ ว่า  หลังจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)โดยท่านปลัดกระทรวงฯได้ประชุมร่วมกับท่านเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)  มีมติตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงาน ก.พ.  ซึ่งตนเป็นประธานคณะทำงานร่วมกับทาง ก.พ.

พญ.อัจฉรา กล่าวว่า ล่าสุดคณะทำงานฯ ได้มีการประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา โดย สำนักงาน ก.พ. มอบหมายให้ทางกระทรวงสาธารณสุข จัดทำข้อมูล รายละเอียด และส่งเอกสารต่างๆ ให้ทาง ก.พ. ซึ่ง สธ.ได้มีการดำเนินการเรียบร้อยแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา  ส่วนการเสนอเข้าครม.เมื่อไหร่นั้นจะอยู่ที่ ก.พ.เป็นผู้พิจารณา  ทั้งนี้ หากเรื่องเข้า ครม.แล้วเสร็จ ทางคณะทำงานชุดนี้ก็จะหารือถึงการดำเนินการขับเคลื่อนกันต่อไป ระหว่างนี้จึงต้องรอเรื่องเข้า ครม.อย่างเดียว

“การเสนอครม.เพื่อขอความเห็นชอบนั้น จะเป็นลักษณะการรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินการโดยมีมติต่างๆ เช่น กรอบอัตรากำลัง ความก้าวหน้า เป็นต้น  ซึ่งหากครม.เห็นชอบหลักการ เราก็สามารถดำเนินการต่อไปได้” พญ.อัจฉรา กล่าว

ผู้สื่อข่าวสอบถามกรณีที่ก่อนหน้านี้มีการนำเสนอข้อมูลผลการวิเคราะห์กรอบอัตรากำลังปี 69 สายวิชาชีพ ซึ่งมีการเผยแพร่เพียง 13 สายงาน จริงๆ มีมากกว่านั้นหรือไม่  พญ.อัจฉรา กล่าวว่า จริงๆ กระทรวงสาธารณสุขมีบุคลากรที่ปฏิบัติงานหลากหลายสายงาน มีมากกว่า 13 สายงาน มีทั้งสายวิชาชีพ สายสนับสนุน  แต่ที่มีการเผยแพร่ 13 สายงานนั้น เป็นตัวอย่างของลีดทีมการดำเนินการด้านสุขภาพ เป็นตัวอย่างนำร่อง แต่จริงๆมีครบทุกวิชาชีพในการดำเนินงาน จึงไม่ต้องกังวล กรอบโครงสร้างอัตรากำลังอันใหม่มีครบทุกวิชาชีพ ทุกสายงาน

วันเดียวกัน นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกรณีนี้ ว่า   ทาง ก.พ.ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว เพื่อรอนำเข้าสู่วาระการพิจารณา  ซึ่งทาง สธ.กับ ก.พ.จะไม่ทราบว่า จะเข้าสู่การพิจารณาเมื่อไหร่  อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอดังกล่าว เป็นการหารือร่วมกันระหว่างสธ.และก.พ. ว่ารับทราบและตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีแนวทางต่างๆ เพื่อดำเนินการแก้ไข  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สำหรับเนื้อหาที่คณะทำงานร่วมระหว่างสธ.และก.พ.จะเสนอต่อที่ประชุมครม.นั้น เป็นไปตามมติที่ประชุมเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน หลักๆ คือ 1.เห็นชอบที่จะมีการเพิ่มตำแหน่งข้าราชการแต่ละวิชาชีพให้ได้ตามกรอบขั้นสูงที่กำหนด ภายในปี 2569 เช่น แพทย์ปัจจุบันมี 24,649 คน เพิ่มเป็น 35,578 คน พยาบาลปัจจุบันมี 116,038 คน เพิ่มเป็น 175,923 คน เป็นต้น 2.การดูแลเรื่องความก้าวหน้าในวิชาชีพ  3.การจัดสรรบุคลากรให้เพียงพอ 4.การจัดสรรแพทย์เพิ่มพูนทักษะ (แพทย์ใช้ทุนปี 1) ให้เพียงพอกับภาระงาน และ5.ขยายการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (CPIRD)  

 

ข่าวอื่นๆ 

-บุคลากรสธ.โล่ง! ล่าสุดเลขาฯ ก.พ.ยืนยันไม่มีการยกเลิกบรรจุข้าราชการโควิดรอบสอง