ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช.เร่งศึกษาเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ "ยามุ่งเป้ารักษามะเร็ง" เน้นมะเร็งเต้านม พร้อมพิจารณาปรับปรุงสิทธิคัดกรองกลุ่มที่ยังไม่เข้าเป้า อย่างมะเร็งปากมดลูก จ่อคุยเลขาฯสปส. เพิ่มการเข้าถึงคัดกรองกลุ่มโรงงาน 

 

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงแนวทางการสิทธิประโยชน์ใหม่หรือเพิ่มยาบัญชียาหลักแห่งชาติ ของสิทธิบัตรทองว่า การเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่หรือเพิ่มยาตัวใหม่เข้ามาในระบบนั้น มีการศึกษาอยู่หลายเรื่องหลายตัว อย่างที่กำลังดูอยู่ก็มีเรื่องของยารักษามะเร็งที่เป็นยามุ่งเป้า เราก็จะพยายามใช้การต่อรองกับบริษัทยา เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยา เพราะยาพวกนี้มีราคาแพง ถ้าเราช่วยได้ก็จะประหยัดงบประมาณ เบื้องต้นที่ใกล้ความเป็นจริงก็มียารักษามะเร็งเต้านม ซึ่งมะเร็งเต้านมอายุที่หลังจากวินิจฉัยแล้วค่อนข้างดี คือ ยืนยาวกว่า 5 ปี ถ้าได้ยาบางตัวก็เรียกว่าค่อนข้างดีมาก แต่จะทำอย่างไรให้รู้ว่ายาตัวไหนดีและเอาเข้ามา เราต้องการผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเรา เรื่องงบประมาณก็พยายามคุยบริษัทมากขึ้น เป็นไปได้หรือไม่ที่จะลดราคาลง 

 

"ยามะเร็งเต้านม ก็จะเป็นลักษณะของยาแบบมุ่งเป้าเช่นกัน ค่อนข้างแต่ละบุคคลด้วยซ้ำ อาจจะต้องตรวจยีนก่อน เช่น มีตัวนี้ใช้ยาตัวนี้ แม้กระทั่งตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมญาติของผู้ป่วยที่ยังไม่มีอาการ ก็พยายามสื่อสารว่าต้องมาตรวจ เพราะหากตรวจก่อนมีอาการก็จะรักษาทัน ทิศทางสิทธิใหม่ๆ ก็ยังเป็นเรื่องมะเร็ง แต่นโยบายต่างๆ คงต้องดูต่อ" นพ.จเด็จกล่าว 

 

ถามถึงยาช่วยเลิกบุหรี่ไซทิซีนจะมีการผลักดันเข้าสิทธิประโยชน์ด้วยหรือไม่  นพ.จเด็จกล่าวว่า เข้าใจว่ามียาช่วยเลิกบุหรี่ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ก็เห็นว่าจะเร่งออกมา เพราะมียาชื่อสามัญที่ออกมา ไม่จำเป็นต้องเป็นยาราคาแพง 

 

ถามต่อว่า สิทธิประโยชน์การคัดกรองโรคต่างๆ มีตัวไหนที่มีแนวโน้มจะเพิ่มเข้ามาด้วยหรือไม่ นพ.จเด็จกล่าวว่า เราเน้นเรื่องนี้เป็นพิเศษ เราสนใจมาก แต่ต้องมีวิชาการไปดูว่าคัดกรองได้ประโยชน์หรือไม่ อย่างคัดกรองเด็กทารกแรกเกิด 24 กลุ่มโรคหายากก็ถือว่ามีความคุ้มค่ามาก หรือคัดกรองมะเร็ง วันนี้ที่ให้การคัดกรองต้องเรียนว่า หลายตัวยังไม่ได้เป้า เช่น มะเร็งปากมดลูก เราก็ต้องให้สุภาพสตรีเก็บสิ่งส่งตรวจเอง หากให้มาขึ้นขาหยั่งอาจจะได้ปีละ 1.6 ล้านคน แต่ให้ตรวจเองอาจได้ถึง 5 ล้านคน ถ้าเราไม่ทำอย่างนี้บริการพวกนี้มันเกิดน้อย 

 

ถามถึงแนวทางการเพิ่มการเข้าถึงการตรวจคัดกรอง โดยเฉพาะคนนอกสิทธิบัตรทอง นพ.จเด็จกล่าวว่า เราจะมีการหารือกับเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เพราะกลุ่มที่เข้าระบบบริการน้อยมากคือพี่น้องในโรงงาน การตรวจมะเร็งต่างๆ โรงงานก็แทบไม่ได้ตรวจ ก็จะหารือว่าจะทำอย่างไร เพราะเรามีเงินอยู่แล้วปีหนึ่งหลายร้อยล้านบาท แต่ไม่ใช้เลยทำอย่างไรให้มาใช้ ซึ่งหลังมีความชัดเจนทางกฎหมายเราก็สามารถดำเนินการบางอย่างต่อ จากนี้ก็คิดว่าเรื่องงบ PP นอกสิทธิบัตรทองคงไม่มีประเด็นแล้ว ส่วนปี 2567 ที่เคยบอกจะกันไว้ 7 พันกว่าล้านบาทก็คงเติมเข้าไปเลย โดยจะหารือสำนักงบประมาณขอเติมเข้ามาต่อไป