ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“หมอชลน่าน” เปิด Quick Win 100 วัน 13 ประเด็น พร้อมคัดเลือกเรื่องเด่นๆ เสนอนายกรัฐมนตรี ชูดิจิทัลเฮลธ์ บัตรประชาชนใบเดียว 4 เขตสุขภาพครอบคลุม 27 จังหวัด ขยายฉีดวัคซีนHPV อายุ 11-20 ปี 1 ล้านคนในเดือนต.ค.นี้ สร้างรพ.120 เตียงนำร่องเขตดอนเมือง ประกาศบรรจุขรก.ชำนาญการพิเศษ จัดทีม Care D+ เชื่อมสัมพันธ์คนไข้และบุคลากร

 

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 20 กันยายน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมช.สธ.) และนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข โดยมีการพิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2567 ในระยะสั้น และเร่งด่วน หรือ Quick Win 100 วัน

30 บาทพลัสกับ 13 ประเด็น Quick Win ใน 100 วันแรก

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า  ที่ประชุมเห็นชอบนโยบายการบริหารงานยกระดับ 30 บาทพลัส ผ่าน 13 ประเด็น สร้าง Quick Win ให้เห็นเป็นรูปธรรมใน 100 วันแรก  ได้แก่  1. โครงการพระราชดำริฯ โครงการเฉลิมพระเกียรติ และโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับพระบรมวงศานุวงศ์  ซึ่งจะมีการคัดกรองมะเร็งผู้ต้องขังทุกราย ในมะเร็งทุกชนิด นอกจากนี้ ยังมีโครงการอัจฉริยะต้นแบบในรพ.เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 10 แห่ง และรพ.เทพรัตนเวชชานุกูล เฉลิมพระเกียรติ 60  พรรษา จ.เชียงใหม่ อีกทั้ง ยังมีโครงการสุขศาลาพระราชทาน ผ่านการรับรองคุณภาพทุกแห่ง

2. 50 เขต 50 รพ. ในกรุงเทพและปริมณฑล  จะนำร่องตั้งโรงพยาบาล 120 เตียงในเขตดอนเมือง โดยจะเริ่มให้มีการก่อสร้างขึ้น

3. สุขภาพจิตและยาเสพติด จะมีการตั้งศูนย์ธัญญารักษ์ หรือมินิธัญญารักษ์ ทุกจังหวัด

4. มะเร็งครบวงจร  เช่น ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV)  ในหญิงอายุ 11-20 ปี คือ ป.5 ถึง ปี 2 จำนวน 1 ล้านคน เปิดโครงการ 1 ล้านโดสในเดือนตุลาคมนี้ และจะมีการคัดกรอบพยาธิในตับจำนวน 1 แสนคนในภาคเหนือ และอีสาน และจะมี CANCER WARRIOR  ในทุกจังหวัด

 

ผุดทีม Care D+ สื่อสารสัมพันธ์ที่ดีคนไข้-บุคลากร

5. สร้างขวัญกำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยจะมีทีม Care D+ ในหน่วยบริการทุกระดับ โดยทีมนี้จะไปช่วยดำเนินการให้ความรู้ความเข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างญาติและผู้ให้บริการในสถานบริการ โดยเฉพาะที่ดูแลภาวะฉุกเฉิน หรือสถานบริการที่มีความแออัด ที่สำคัญจะประกาศบรรจุข้าราชการชำนาญการพิเศษครบทุกตำแหน่ง และได้รับสิทธิการเลื่อนเงินเดือนระหว่างได้สิทธิไปลาศึกษาต่อ พูดง่ายๆคือ ไม่แป๊กเงินเดือน เดิมที่ผ่านมาจะได้รับเงินเดือนระดับเดิม จนกว่าจะจบการศึกษา แต่ต่อไปจะไม่เป็นเช่นนั้น

พยาบาลซี 8 ส่วนวิชาชีพอื่นๆถ้าค่างานครบพร้อมผลักดัน

นพ.โอภาส กล่าวเพิ่มถึงประเด็นสร้างขวัญกำลังใจว่า ภาพรวมการสร้างขวัญกำลังใจมีหลายอย่าง ทั้งการบรรจุตำแหน่งเป็นข้าราชการ ความก้าวหน้าวิชาชีพ มีสวัสดิการที่ดี ซึ่งภาพรวมเราอยู่ภายใต้ระเบียบก.พ. แต่ต่อไปเราจะมีคณะกรรมการกำลังคนด้านสาธารณสุข ซึ่งเป็นเป้าหมายสุดท้าย แต่ระยะสั้น ในเรื่องวิชาชีพจะให้ความเหมาะสมแต่ละวิชาชีพ อย่างพยาบาล เป็นตัวอย่างเรื่องซี 8 แต่วิชาชีพอื่นๆ ถ้ามีค่างานครบตามระเบียบก็จะผลักดันให้ได้ทุกคน 

6. การแพทย์ปฐมภูมิ จะมีการเดินหน้าโครงการเทเลเมดิซีน ระบบการแพทย์ทางไกล ใกล้บ้าน 1 จังหวัด 1 โรงพยาบาล รวมถึงอนามัยโรงเรียน 1 อำเภอ 1 โรงเรียน

7. สาธารณสุขชายแดน และพื้นที่เฉพาะ มีการขึ้นทะเบียนเบิกจ่ายแบบเรียลไทม์ สำหรับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ในกลุ่มประชากรเฉพาะ 5 จังหวัดจะมีการประกาศต่อไป

8. สถานชีวาภิบาล จะประกาศตั้งสถานชีวาภิบาล จังหวัดละ 1 แห่ง หรือที่เรียกว่า โฮมวอร์ด (Home Ward) จังหวัดละ 1 แห่ง มีคลินิกผู้สูงอายุทุกโรงพยาบาล

9. พัฒนาโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) แม่ข่าย เติมเต็มศักยภาพให้ รพช.ที่จะรับการดูแลในระดับทุติยภูมิ มีการกำหนดเป้าหมาย เพิ่มศักยภาพ วินิจฉัยโรคด้วยเครื่องซีที เครื่อง MRI

บัตรประชาชนใบเดียวนำร่อง 4 เขตสุขภาพ

10. ดิจิทัลสุขภาพ ประกาศการเข้าถึงบริการด้วยบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ทุกโรค รักษาฟรี นำร่อง 4 เขตสุขภาพ ได้แก่ เขตสุขภาพที่ 1 เป็นเหนือตอนบน เขตสุขภาพที่ 4 เป็นพื้นที่ภาคกลาง  เขตสุขภาพที่ 9 ภาคอีสานตอนใต้  และเขตสุขภาพที่ 12 เป็นพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง

11. ส่งเสริมการมีบุตร ผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ จะมีคลินิกส่งเสริมการมีบุตรอย่างน้อย 1 จังหวัด 1 แห่ง ลูกเกิดรอด แม่ปลอดภัย และเติมเต็มคัดกรองเด็ก 24 กลุ่มโรค และนโยบายใหม่จะเพิ่ม 40 กลุ่มโรค

12. เศรษฐกิจสุขภาพ จะประกาศให้มี Wellness Community  หรือ  บลูโซน (Blue Zone) หรือเมืองที่คนอยู่อาศัยมีคุณภาพชีวิตที่ดี อายุยืน ทำให้ได้เขตสุขภาพละ 1 แห่ง หรือเติมเต็มบางแห่งที่มีความพร้อม อย่าง จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดน่าน ก็จะทำเรื่องนี้ และจะขึ้นทะเบียน Wellness Center อีก 500 แห่ง อนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพชุมชน 100 รายการ สร้างงานสร้างอาชีพ เช่น นวดไทย 500 คน

13. นักท่องเที่ยวปลอดภัย เขตสุขภาพละ 1 แห่ง โดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติประกาศจะทำ 1 เขต 1 สกายดอกเตอร์

 “เราประกาศ 13 ควิกวิน แต่จะคัดเลือกเด่นๆ ตอบโจทย์ประชาชนเป็นแผนปฏิบัติการเร่งรัด มีผลลัพธ์ชัดเจน โดยจะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ส่วนอื่นๆก็จะทำต่อไป”นพ.ชลน่าน กล่าว

 

บัตรปชช.ใบเดียวนำร่อง รพ.สังกัด 4 เขตสุขภาพ 27 จังหวัด

เมื่อถามว่าบัตรประชาชนใบเดียวที่จะนำร่องในเขตสุขภาพที่ 1 เขต 4 เขต 9 และเขต 12 จะเฉพาะในรพ.สังกัดกระทรวงฯ ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า  ใช่ เราจะบริหารจัดการในสังกัดสธ.ให้เป็นไปตามควิกวิน จากนั้นเป้าหมายต่อไปเรามีคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นเลขานุการ จะดำเนินการกรณีเชื่อมต่อข้อมูลต่างๆ จากต่างกระทรวงมาเป็นหนึ่งเดียวกัน เชื่อมโยงข้อมูล ซึ่งจะอยู่บนคราวน์

เมื่อถามวัตถุประสงค์ของการเลือกเขตสุขภาพนำร่อง อย่างเขตสุขภาพ 12 เป็นพื้นที่ชายแดน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คณะกรรมการเข้าไปดูใน 4 เขตนี้ มีความพร้อมว่า จะสามารถประกาศผลลัพธ์ได้  อย่างเขตสุขภาพ 12 หลายคนอาจนึกไม่ถึง แต่หลังจากตนลงพื้นที่ทำให้ทราบว่า เขต 12 มีความโดดเด่นในเรื่องดิจิทัลเฮลธ์ มีสมาร์ทฮอสพิทัล อย่างรพ.ยี่งอฯ เป็นสมาร์ทฮอสพิทัล เป็นรพ.ในฝัน เป็นกรีนฮอสพิทัล

เมื่อถามว่าบัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรี รักษาทุกที่ จะเริ่มเมื่อไหร่อย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จริงๆ รพ.ทุกแห่งในเขตสุขภาพนำร่อง มีความพร้อมอยู่แล้ว ในการให้บริการ แต่กำหนดว่า ภายใน 100 วันจะเชื่อมโยงข้อมูลได้หมด โดยประชาชนสามารถไปรักษาข้ามรพ.ได้โดยไม่ต้องมีใบส่งตัว ซึ่งเราหวังว่า ทั้ง 4 เขตสุขภาพนำร่องจะเริ่มใช้ครบทั้งหมดภายใน 100 วัน เป็นของขวัญปีใหม่  2567

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กังวลหรือไม่ว่าผู้ป่วยจะแห่ไปใช้บริการจากบัตรประชาชนใบเดียวหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า  ไม่กังวล เรามีระบบรองรับป้องกันการใช้บริการไม่สมเหตุสมผล มีแพทย์คอยแนะนำ มีรพ.ใกล้บ้าน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้อยากเดินทางไกล ต้องการความสะดวก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 4 เขตสุขภาพ มีจำนวน 27 จังหวัด ได้แก่ 

เขตสุขภาพที่ 1 ครอบคลุม 8 จังหวัด  เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน พะเยา ลำปาง ลำพูน และแม่ฮ่องสอน

เขตสุขภาพที่ 4 ครอบคลุม 8จังหวัด สระบุรี นนทบุรี ลพบุรี อ่างทอง นครนายก สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี 

เขตสุขภาพที่ 9 ครอบคลุม 4จังหวัด นครราชสีมา  ชุยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ 

เขตสุขภาพที่ 12 ครอบคลุม7 จังหวัด พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

 

ข่าวเกี่ยวข้อง : "ชลน่าน" เพิ่ม 4 จังหวัด ใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ข้ามเครือข่ายรัฐและเอกชน