ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช.เห็นชอบ “แผนพัฒนาสายด่วน 1330 อัจฉริยะ” รองรับนโยบาย “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” เพิ่มนัดหมายบริการ นัดพบแพทย์ออนไลน์ พร้อมยืนยันตัวตนรับบริการ ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน 

วันที่ 26 ม.ค. 2567 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบ “ข้อเสนอโครงการพัฒนาระบบการจัดการสายด่วน สปสช. 1330 อัจฉริยะ (Smart Contact Center)” นำเสนอโดย นายประเทือง เผ่าดิษฐ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อยกระดับการบริการของสายด่วน สปสช. 1330 เพิ่มความสะดวกในการรับบริการให้กับประชาชน

ข้อเสนอโครงการฯ นี้มีเป้าหมายที่เป็นการขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรค ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ซึ่งปัจจุบันบริการสายด่วน สปสช. 1330 ครอบคลุมเฉพาะการให้บริการตอบข้อซักถามและรับเรื่องร้องเรียนของหน่วยบริการและประชาชนเท่านั้น ดังนั้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกตามนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นการนัดหมายบริการ นัดคิว/นัดพบแพทย์ออนไลน์ การยืนยันตัวตนรับบริการร้านยาใกล้บ้าน/ตรวจ Labที่บ้าน/กายภาพบำบัด และการพยาบาลคลินิกใกล้บ้าน เป็นต้น สปสช. จำเป็นต้องพัฒนาระบบบริการสายด่วน สปสช. 1330 ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มคู่สายให้บริการ พัฒนาช่องทางการติดต่อ การบริหารระบบส่งต่อผู้ป่วย และเพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) พร้อมเพิ่มอาสาสมัครร่วมให้บริการสายด่วนฯ เช่น พยาบาลเกษียณ/คนพิการ รวมทั้งการอำนวยความสะดวกให้กับหน่วยบริการ โดยเพิ่มคู่สายสำหรับหน่วยบริการเฉพาะ เพื่อเป็นช่องทางในการสอบถามข้อมูลของหน่วยบริการ การตรวจสอบสิทธิที่เชื่อมโยงบริการการขอ Claim code  และตรวจสอบการจ่ายเงิน การสนับสนุนการส่งต่อผู้ป่วย 

“ขณะนี้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ได้ดำเนินการใน 4 จังหวัดแล้ว คือ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี และนราธิวาส และในเดือนมีนาคมนี้เตรียมจะเดินหน้าในอีก 8 จังหวัดก่อนขยายไปทั่วประเทศ ซึ่งการจัดการสายด่วน สปสช. 1330 อัจฉริยะ จะเข้ามามีส่วนสนับสนุนการรับบริการของประชาชนให้มีความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพิ่มการเข้าถึงบริการที่เป็นเป้าหมายของการดำเนินการตามนโยบายนี้” ประธานบอร์ด สปสช. กล่าว  

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับแนวทางพัฒนาระบบการจัดการสายด่วน สปสช. 1330 อัจฉริยะ เบื้องต้นมี 7 ด้านด้วยกัน เพื่อสนับสนุนนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ดังนี้ 

1.พัฒนาช่องทางการติดต่อรองรับ Multi-Channel ให้เข้าถึงและใช้งานระบบได้ง่ายขึ้น ทุกที่ ทุกเวลา ลดเวลาให้บริการเฉลี่ย 5 นาทีต่อสาย 2.พัฒนาระบบการจัดการคิว ลดเวลารอสายเหลือน้อยกว่า 30 นาที 3.ระบบบันทึกและบริหารข้อมูลของผู้รับบริการ เชื่อมโยงกับฐานข้อมูลอื่นอย่างเป็นระบบ ง่ายในการติดตาม ติดต่อ และขอข้อมูลตนเอง 4.ระบบบริหารจัดการทีม ช่วยลดจำนวนเจ้าหน้าที่เหลือน้อยกว่า 25 คนต่อทีม 
5.ระบบสนับสนุนการทำงานเชิงรุก มีความยืดหยุ่นของการแสดงผลและใช้งาน รองรับนโยบายเร่งด่วนได้
6.ระบบการวิเคราะห์และรายงานเชิงคุณภาพบริการที่เข้าถึงง่าย และ 7.ระบบมีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวด ปกป้องข้อมูลผู้รับบริการและการปฏิบัติตามกฎหมาย

นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า จากการพัฒนาระบบการจัดการสายด่วน สปสช. 1330 อัจฉริยะนี้ จะทำให้ประชาชนและหน่วยบริการรับบริการตามนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ได้อย่างเต็มที่ ผ่านการติดต่อได้หลายช่องทาง ทั้งยังสามารถติดตามผลผ่านการ Tracking หรือตรวจสอบสถานะขั้นตอนการดําเนินงาน เป็นต้น 

ขณะที่ในส่วนของ สปสช. เอง ประโยชน์ที่ได้คือจะมีระบบสนับสนุนสายด่วน สปสช. 1330 บริการ 24 ชั่วโมง ที่มีประสิทธิภาพ ทันสมัย และความพร้อมของการให้บริการยิ่งขึ้น เช่น ระบบโอนสาย ระบบจัดคิว ระบบบันทึก ระบบประมวลผลข้อมูล ระบบการวิเคราะห์และรายงานผล ระบบแจ้งเตือน และระบบ Customer Feedback รวมทั้งสามารถทำงานแบบสื่อสารผสม (IP Multimedia) ได้อย่างมีประสิทธิภาพกับระบบสั่งการด้วยเสียงผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ และมีความปลอดภัยในการรักษาข้อมูล