ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ร่วมงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2567 ครั้งที่ 42 ให้ความรู้สมุนไพรที่ควรพกติดตัวไว้ใช้ยามฉุกเฉิน พร้อมจัดบอร์ดนิทรรศการ มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำสมุนไพรตัวเด่นที่ควรมีไว้ติดบ้าน

มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ร่วมงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2567 ครั้งที่ 42 ที่จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ เพื่อเตรียมวางแผนท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เทศกาลแห่งความสุข และเป็นปีแรกที่จะได้เฉลิมฉลองในโอกาสที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียน “สงกรานต์” เป็นมรดกโลก ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 1 เมษายน 2567 

ปีนี้บูทของ มูลนิธิ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งอยู่ในโซนภาคตะวันออก ได้ยกแลนด์มาร์คสำคัญ คือ พิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง มาให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม ถ่ายภาพ พร้อมด้วยกิจกรรมอภัยภูเบศร ที่เน้นไฮไลต์สมุนไพร ที่ควรพกติดตัวไว้ใช้ยามฉุกเฉิน รวมถึงสมุนไพรที่ช่วยให้การท่องเที่ยวในหน้าร้อนนี้สนุกขึ้น

โดยได้จัดบอร์ดนิทรรศการให้ความรู้ ทั้งภายในและภายนอกของพิพิธภัณฑ์ มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำสมุนไพรตัวเด่นที่ควรมีไว้ติดบ้าน เช่น

1) สมุนไพรมงคล ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ  อย่างต้นกระดูกไก่ดำ ต้นไม้ที่แนะนำให้มีปลูกไว้ เป็นไม้มงคลแล้ว ยังช่วยได้ยามฉุกเฉิน จากองค์ความรู้ที่สืบทอดจากหมอยาพื้นบ้าน สู่การพัฒนาตำรับ ใช้จริงในผู้ป่วย และมีผลงานวิจัยรับรอง อภัยภูเบศรได้นำมาพัฒนาเป็น สเปรย์และน้ำมันกระดูกไก่ดำ สมุนไพรแก้ปวดเมื่อย ลดอักเสบได้ดี แก้เคล็ดขัดยอก จากการวิ่ง เดินมาก ปวดตึงคอบ่าไหลจากการนั่งรถเป็นเวลานาน หกล้มฟกช้ำ ปวดบวมข้อเข่า และยังมีจุดเด่นที่ไม่มีสีติดค้างที่เสื้อผ้าทำให้สะดวกในการใช้ระหว่างวัน 

2) ว่านเสน่ห์จันทร์ขาว เป็นว่านมงคลที่มีกลิ่นหอมไปทุกส่วน มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ และบรรเทาอาการปวดเมื่อย ต้นเสน่ห์จันทร์ขาวหรือขิงแครงปลากั้ง เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นเครื่องหอมช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงประสาท คลายเครียด ช่วยให้นอนหลับ นอกจากสรรคุณทางยา ที่มีปรากฎการใช้มากในหมอยาภาคใต้และยังมีบันทึกในตำรายาโบราณ แล้วยังว่านศักดิ์สิทธิ์ มีเมตตามหานิยม และพลังแหล่งการดึงดูดเทวดาให้มาคุ้มครอง มาพร้อมกับสมุนไพรบรรเทาอาการปวดเมื่อย บำรุงกำลัง ดูแลกระดูกและข้อ อื่นๆอีกเช่น เถาวัลย์เปรียง เพชรสังฆาต เจ็ดกำลังช้างสาร ไพล พลับพลึง หรือต้นยากำลังระดับตำนาน อย่างต้น ตำยาน 

3) สมุนไพรยาเย็นดับร้อน  ที่นำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ และขอแนะนำให้มีติดตัวคือ สเปรย์รางจืด (Thai Detoxify Herb) ตำรับสเปรย์ที่คิดต้นสูตรขึ้นมาจากสมุนไพรฤทธิ์เย็น ลดการอักเสบได้ดี นอกเสียจากนั้นแล้วรางจืดยังเป็นสมุนไพรที่ช่วยล้างพิษได้อย่างทันท่วงที พกติดตัวไว้ ไปไหนไปกัน ใช้ได้ทั้ง ฉีดพ่นลดการระคายเคืองผิวจาก แสงแดด สิ่งสกปรก อาการผดผื่นระคายเคืองจากการบุกป่าฝ่าดง ช่วยปลอบประโลมผิว   “สมุนไพรฤทธิ์เย็น ดับร้อน ลดการอักเสบ ลดการระคายเคืองผิวจากแสงแดด ฝุ่น มลพิษ  นอกจากรางจืดที่เป็นราชาแห่งการแก้พิษแล้ว ยังมีสมุนไพรอื่นๆอีก เช่น บัวบก  ผักเบี้ยใหญ่ ว่านหางจระเข้ คว่ำตายหงายเป็น แตงกวา และผักบุ้ง ที่ได้ชื่อว่าเป็นยาเย็นจากชายทุ่ง ยาแก้พิษใกล้มือ” 

4) ตรีผลา เป็นตำรับสมุนไพร ประกอบด้วย ผลไม้ 3 อย่าง คือ มะขามป้อม สมอไทย และสมอภิเพก เป็นตำรับสมุนไพรสำหรับหน้าร้อน ช่วยระบายและถ่ายความร้อนออกจากร่างกาย ลดอักเสบ เพราะความร้อนจะกระตุ้นการอักเสบเรื้อรัง เกิดอนูมูลอิสระ เกิดความเสื่อมจนอาจนำไปสู่โรคภัยต่างๆในอนาคตได้

ภายในพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน มีมุมอาหารและเครื่องดื่มจากสมุนไพรไทย ที่มาพร้อมนำเสนออัตลักษณ์ไทยสมุนไพรในสปา ให้ท่านได้เรียนรู้พืชดอกที่งดงาม หลากสีสัน และมากคุณค่าทางยา อย่าง บัวหลวง อัญชัน ดาวเรือง ชบา ลีลาวดี ผักปลัง คุณนายตื่นสาย บานเย็น ว่านกาบหอย เป็นต้น 

นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพรนานาชนิดที่มีติดตัวไว้อุ่นใจ กระจายทั่วบูธ ประกอบไปด้วย สมุนไพรคลายร้อน เสริมเกลือแร่ ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ อาทิเช่น มะขามป้อม  กระเจี๊ยบ  มะตูม เดินทางปลอดภัยห่างไกลโควิด ไข้หวัด ด้วย ฟ้าทะลายโจร หูเสือ กระชาย   ดูแลท้องไส้ตลอดทริป หมดปัญหาเมารถเมาเรือ ด้วย ขมิ้นชัน ขิง   สมุนไพรบรรเทาอาการแมลงสัตว์กัดต่อย  ได้ทันใจ ได้แก่ พญายอ มะนาว มะละกอ และผักบุ้งทะเล

ในวันที่ 30 เมษายน มูลนิธิรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร นำโดย ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิฯ ภก.ณัฐดนัย มุสิกวงศ์ พท.ป.แพรวนภา ทุมหนู จะมาให้ความรู้ สมุนไพรพกพา หญ้ายาใกล้ตัว ณ เวทีกลาง เวลา 10.30 – 12.00 น.