ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นักกายภาพบำบัดชุมชน ร้องขอความเป็นธรรม หลังตารางกรอบอัตรากำลัง/ค่าตอบแทน “หมอครอบครัว” สุดเหลื่อมล้ำ ภาระงานหนักอึ้งดูแลประชากรเกินกำลัง 1:30,000 ซ้ำได้ค่าตอบแทนน้อย 2,800 บาท ขณะที่วิชาชีพอื่นได้รับ 4,400-5,500 บาท เผยสัปดาห์หน้าหารือ ผอ.สปค.สธ.แก้ปัญหา

นายสมคิด เพื่อนรัมย์ ประธานชมรมกายภาพบำบัดชุมชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย “คลินิกหมอครอบครัว” (Primary Care Cluster: PCC) เพื่อการกระจายบริการสุขภาพให้เกิดการดูแลประชาชนอย่างครอบคลุม ทั่วถึง และรวดเร็ว เน้นความร่วมมือและทำงานเป็นทีมร่วมกันของ 10 วิชาชีพ โดยมีนักกายภาพบำบัดเป็นหนึ่งในวิชาชีพที่ร่วมทีม แต่จากข้อมูลนำเสนออัตรากำลังและค่าตอบแทนที่นำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการค่าตอบแทน กระทรวงสาธารณสุข ปรากฎว่าได้สร้างความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมในส่วนวิชาชีพกายภาพบำบัดที่กระทบต่อขวัญกำลังใจนักกายภาพบำบัดชุมชน

ทั้งนี้เมื่อดูอัตรากรอบกำลัง ที่ผ่านมาเราได้เสนอในกรอบอัตรา 1:10,000 ประชากร แต่จากข้อมูลที่นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการค่าตอบแทนดังกล่าว ได้เสนออยู่ที่ 1:30,000 ซึ่งในความเป็นจริงนั้นทำไม่ได้ เพราะในอัตราการดูแลประชากร 1:10,000 นั้นเต็มที่แล้ว ซึ่งหากกำหนดในอัตราดังกล่าวจะทำให้การดูแลมีคุณภาพและมาตรฐานหรือไม่ และหากจะนำไปเทียบเคียงกับกรอบอัตรากำลังวิชาชีพทันตแพทย์และเภสัชกรที่กำหนด 1:30,000 คงไม่ได้เช่นกัน เพราะทันตแพทย์ 1 คน มีกรอบอัตรากำลังทันตภิบาล 3 คนคอยช่วยดูแล ขณะที่เภสัชกร 1 คน มีกรอบอัตรากำลังเจ้าพนักงานเภสัชกรรม 3 คนคอยช่วยดูแลเช่นกัน ขณะที่นักกายภาพบำบัดทำงานเพียงคนเดียว

นายสมคิด กล่าวว่า จากกรอบอัตรากำลังที่มีภาระงานหนักแล้ว เมื่อดูอัตราค่าตอบแทนที่ได้รับกลับยิ่งทำให้รู้สึกบั่นทอนกำลังใจ เนื่องจากค่าตอบแทนที่วิชาชีพกายภาพบำบัดได้รับเพียงแค่ 2,800 บาทเท่านั้น ขณะที่วิชาชีพอื่นๆ ได้รับอัตราค่าตอบแทนที่ 4,400-5,500 บาท ซึ่งอัตราที่เราได้รับอยู่ในอัตราเดียวกับเจ้าพนักงานสาธารณสุขที่เรียนจบอนุปริญญาตรี 2 ปี ซึ่งคงต้องถามว่าตรงนี้เป็นธรรมหรือไม่ เพราะในการลงพื้นที่ทำงานเยี่ยมบ้าน ฟื้นฟูดูแลผู้ป่วยต่างก็ร่วมทำงานเป็นทีมเดียวกัน

“สิ่งที่เกิดขึ้นอยากขอความเป็นธรรมทั้งจากสำนักงานสนับสนุนระบบปฐมภูมิและคลินิกหมอครอบครัว (สปค.) กระทรวงสาธารณสุข ที่ดูแลนโยบายและผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในการมอบนโยบายหมอครอบครัวต่างบอกว่าทุกวิชาชีพสำคัญและมีคุณค่าเท่าเทียมกัน แต่ที่ปรากฎนั้นไม่ใช่ และที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขเองได้ให้ชมรมฯ พยายามผลักดันน้องนักกายภาพที่จบใหม่ให้ลงทำงานในชุมชน เป็นหนึ่งในทีมหมอครอบครัว หากทำเช่นนั้นได้ต้องมีความมั่นคงเพียงพอ แม้ไม่มีตำแหน่งบรรจุ แต่อย่างน้อยก็ได้ทำงานใกล้บ้านและได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม” ประธานชมรมนักกายภาพบำบัดชุมชนฯ กล่าว

นายสมคิด กล่าวว่า ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้า นพ.บุญชัย ธีระกาญจน์ สาธารณสุขนิเทศก์ ผู้อำนวยการสำนักงานสนับสนุนระบบปฐมภูมิและคลินิกหมอครอบครัว ได้เชิญตัวแทนชมรมนักกายภาพบำบัดชุมชนฯ เพื่อเข้าพูดคุยถึงความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพื่อร่วมหาทางออก นับเป็นข่าวดีเพราะจากกรอบอัตรากำลังและค่าตอบแทนที่ออกมานี้ ต้องบอกว่าทำให้น้องนักกายภาพบำบัดที่ทำงานในชุมชนเสียขวัญกันมาก และมองว่าการกำหนดเช่นนั้นเหมือนกับเป็นการผลักดันให้เราออกจากระบบไป ที่ผ่านมาเราไม่รู้จะเรียกร้องอย่างไรเพราะเราไม่มีตัวแทนวิชาชีพกายภาพบำบัดนั่งอยู่ในกระทรวง จึงพยายามโพสต์ข้อความตามสื่อที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้หากยังไม่ได้รับความเป็นธรรมเราคงต้องมีการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ ซึ่งอาจต้องขอความเป็นธรรมต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป

ขอบคุณภาพจาก Facebook คลินิกหมอครอบครัวเครือข่ายโรงพยาบาลทัพทัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สธ.แจงค่าตอบแทนหมอครอบครัว 'นักกายภาพบำบัด' ไม่เหลื่อมล้ำ ชี้ใช้เกณฑ์เดิมคำนวณ

คณบดีกายภาพบำบัดห่วง ‘นักกายภาพบำบัดชุมชน’ ภาครัฐขาดแคลน เหตุระบบไม่จูงใจ