ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดโครงการสุขภาพดี แท็กซี่ไทยเริ่ม 1,000 คันแรก เน้นรถสะอาดถูกสุขอนามัย ไร้กลิ่นเหม็น–อับ-บุหรี่ พร้อมรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และเมดิคัลฮับ จัดบริการตรวจสุขภาพฟรีผู้ขับในโรงพยาบาลสังกัด 10 แห่งในเขตกทม.และปริมณฑล รถที่ผ่านเกณฑ์จะได้รับสติกเกอร์ “ผู้โดยสารอุ่นใจ แท็กซี่ไทย ใส่ใจสุขภาพ” ติดที่หน้ารถ และให้เป็นเครือข่ายรับส่งผู้ป่วยของโรงพยาบาล หากผู้ขับขี่ป่วยจะได้รับสิทธิรักษาทางด่วน

วันนี้ (20 สิงหาคม 2555) ที่หน้าแผนกอาคารผู้ป่วยนอก สถาบันโรคทรวงอก จ.นนทบุรี นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดคาราวานรถแท็กซี่ไทย ใส่ใจสุขภาพ ในโครงการสุขภาพดี แท็กซี่ไทย (Healthy Taxi) ซึ่งเป็นแท็กซี่ที่ได้มาตรฐานด้านสุขอนามัย รับส่งผู้โดยสารทั้งผู้ป่วยและคนปกติ ไร้กังวลจากโรคติดต่อ

นายวิทยาให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของประชาชนทุกกลุ่มทุกอาชีพเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ใช้บริการรถแท็กซี่และรถสาธารณะอื่นๆ โดยมีนโยบายสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของรถบริการสาธารณะ เพื่อเตรียมการก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ภายในปี 2558 ในแง่ความพร้อมการจัดบริการสาธารณะที่ได้มาตรฐานทางสาธารณสุขแก่ผู้โดยสารทั้งไทยและต่างชาติ ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และการเป็นศูนย์กลางสุขภาพแห่งเอเชีย (Medical Hub) โดยได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพในการจัดโครงการสุขภาพดี แท็กซี่ไทย หรือเฮลท์ตี้ แท็กซี่ (Healthy Taxi) ดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555 นี้เป็นต้นไป เริ่มในรถแท็กซี่ในเขต กทม.และปริมณฑลก่อน 1,000 คันแรก ตลอดกันยายน 2555 นี้ และจะขยายผลเพิ่มขึ้นในปีต่อๆไป

นายวิทยากล่าวต่อว่า ตามโครงการนี้ จะเน้นการพัฒนาสุขอนามัยของแท็กซี่ที่เข้าร่วมโครงการ 2 ส่วน ส่วนแรกคือผู้ขับขี่รถ จะจัดอบรมและตรวจสุขภาพให้ฟรี อาทิ ตรวจน้ำตาลในเลือด ตรวจไขมันในเลือด ความเข้มข้นของเลือด ตรวจความดันโลหิต เอ็กซเรย์ปอด ที่โรงพยาบาล (รพ.) ที่อยู่ในสังกัด 10 แห่งที่อยู่ใน กทม.และปริมณฑล ได้แก่ รพ.ราชวิถี รพ.นพรัตนราชธานี รพ.เลิดสิน รพ.พระนั่งเกล้า รพ.สงฆ์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี สถาบันประสาทวิทยา สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สถาบันโรคผิวหนัง สถาบันโรคทรวงอก เฉลี่ยโรงพยาบาลละ 100 คัน และออกใบรับรองแพทย์ให้ไว้ติดตัวและต้องตรวจสุขภาพทุกปี แท็กซี่ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการที่โรงพยาบาลที่กล่าวมา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ส่วนที่ 2 คือสุขอนามัยของรถ ซึ่งจะต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานความสะอาดทั้งในและนอกตัวรถ ไม่มีกลิ่นเหม็น กลิ่นอับชื้น กลิ่นบุหรี่หรือกลิ่นอื่นๆ และความปลอดภัยของรถ ซึ่งต้องมีการตรวจสุขภาพรถแท็กซี่ตามเกณฑ์ของกระทรวงคมนาคม โดยรถแท็กซี่ที่ผ่านเกณฑ์จะได้รับป้ายสติ๊กเกอร์ “ผู้โดยสารอุ่นใจ แท็กซี่ไทย ใส่ใจสุขภาพ” พร้อมเจลล้างมือ น้ำยาเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคที่เบาะผู้โดยสาร หน้ากากอนามัย และคู่มือการดูแลสุขภาพประจำรถ

นายวิทยากล่าวอีกว่า รถแท็กซี่ที่ผ่านเกณฑ์เหล่านี้จะได้รับการขึ้นทะเบียนไว้ที่โรงพยาบาลแต่ละแห่ง สามารถรับผู้โดยสารได้ทั้งประชาชนทั่วไปและผู้ป่วย โดยโรงพยาบาลแต่ละแห่งจะจัดจุดบริการเฮลท์ตี้แท็กซี่ที่แผนกผู้ป่วยนอก เป็นบริการเสริมพิเศษ เพิ่มความสะดวกให้ผู้ป่วยที่ต้องการใช้บริการมากยิ่งขึ้น และมีระบบการสื่อสารระหว่างแท็กซี่กับโรงพยาบาล ถือว่าเป็นบริการใหม่ของกระทรวงสาธารณสุข ภายหลังรับส่งผู้ป่วยจะต้องเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกครั้ง หากผู้ขับขี่เฮลท์ตี้แท็กซี่ป่วย จะได้รับความสะดวกในการรักษาเทียบเท่าผู้สูงอายุตามโครงการ 70 ปีไม่มีคิว

ทั้งนี้ โครงการสุขภาพดี แท็กซี่ไทย ถือว่าเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาด้านสุขภาพที่อาจเกิดจากใช้บริการรถสาธารณะ เช่นวัณโรค ไข้หวัดใหญ่ และดูแลความพร้อมทางสุขภาพผู้ที่มีอาชีพขับขี่รถโดยสารบนท้องถนน ให้สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย ไม่มีอุบัติเหตุ จากสถิติกรมการขนส่งทางบก พบว่าปัจจุบันมีผู้ขับขี่รถสาธารณะมากกว่า 100,000 ราย โดยเป็นแท็กซี่บุคคลประมาณ 20,000 คัน แท็กซี่เช่าประมาณ 60,000 คัน