ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม คณะกรรมการจัดงานวันแรงงานข้ามชาติสากล ธันวาคม 2555 ประกอบด้วย เครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติ (ANM) เครือข่าย ด้านประชากรข้ามชาติ (MWG) แผนพัฒนาคุณภาพชีวิต แรงงาน คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และกลุ่มสหภาพแรงงานจากย่านต่างๆ กว่า 200 คน ร่วมกันเดินรณรงค์จาก อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาสิทธิของแรงงาน ข้ามชาติ โดยได้ยื่นข้อเรียกร้องทั้งหมดถึง รมว.แรงงาน ผ่านนายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน

ยื่น 3 ข้อแก้ปัญหาแรงงานข้ามชาติ

นายบัณฑิต แป้นวิเศษ ผู้ประสานงานคณะทำงานจัดงานวันแรงงานข้ามชาติสากล กล่าวว่า การจัดงานวันแรงงานข้ามชาติสากลครั้งนี้ คณะทำงานมีข้อเสนอหลักๆ ที่ต้องการให้รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบดำเนินการแก้ไข ดังนี้ 1.รัฐบาลไทยต้อง แก้กฎหมายประกันสังคมเพื่อให้แรงงานข้ามชาติ ที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติแล้วมีสิทธิเข้าถึงประกันสังคมอย่างเป็นธรรม 2.รัฐบาลทบทวนนโยบายส่งกลับแรงงานข้ามชาติ หลังวันที่ 14 ธันวาคม 2555 เนื่องจากจะมีแรงงานข้ามชาติที่ต้องถูกผลักดันส่งกลับประเทศ เพราะไม่สามารถขึ้นทะเบียนพิสูจน์สัญชาติได้ทันตามกำหนด 3.ขอให้รัฐบาลไทยแก้ไขคุ้มครองแรงงาน ให้เพิ่มการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติและแรงงานไทยที่มีอาชีพทำงานตามบ้านและงานประมง เนื่องจากแรงงานเหล่านี้เป็นงานที่ต้องทำงานหนัก มีชั่วโมงการทำงานยาวนานและเป็นงานสกปรก

ชี้ต่างด้าวเข้าไม่ถึงประกันสังคม

ต่อมาที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา มีการจัดเสวนาวิชาการหัวข้อ "วิสัชนา การเข้าถึงประกันสังคมที่เป็นธรรมของแรงงานข้ามชาติในอาเซียน" โดยนายแล ดิลกวิทยรัตน์ นักวิชาการแรงงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า กฎหมายประกันสังคมออกมาเพื่อตอบโจทย์เมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว และใช้บังคับกับโรงงาน ไม่ใช่บังคับกับแรงงานทุกคน แต่ปัจจุบันนำมาบังคับใช้กับทุกคนที่เป็นนายจ้าง ซึ่งไม่ได้คิดถึงกรณีลูกจ้างที่เป็นแรงงาน ข้ามชาติหรือไม่ได้คิดถึงลูกจ้างที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน ทำให้เกิดปัญหาความไม่เป็นธรรมขึ้น

"ปัญหาเรื่องแรงงานข้ามชาติที่เกิดขึ้น ในประเทศไทยเป็นปัญหาของนายจ้างและรัฐบาล ซึ่งหากยังหาทางแก้ไขไม่ได้ก็จะเกิดผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะในสถานการณ์ความต้องการแรงงานที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราต้องอาศัยแรงงานข้ามชาติเข้ามาทำงาน ดังนั้น หากยังจัดการไม่ได้ เศรษฐกิจประเทศจะพัง แต่ขณะเดียวกันเมื่อนำแรงงานข้ามชาติมาทำงานก็ต้องมีความยุติธรรมให้ด้วย ไม่ใช่เฉพาะเรื่องสวัสดิการสังคมเท่านั้น แต่จะต้องครอบคลุมในทุกเรื่อง" นายแล กล่าว

แฉมีขบวนการนายหน้าหากิน

ด้านนายนันท์ ออประเสริฐ รองประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า การแก้ปัญหาแรงงานข้ามชาตินั้นยังไม่ตรงจุด จึงทำให้ปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทยยังคงอยู่และจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น จนส่งผลให้การจัดลำดับบัญชีการค้ามนุษย์โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะเลวร้ายกว่าครั้งที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งนี้ สาเหตุที่แรงงานข้ามชาติไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยหน่วยงานที่มีปัญหา คือ ส่วนราชการที่ไม่มีตัวแทนทางอ้อม ซึ่งตัวแทนทางอ้อมของ หน่วยงานราชการกลับถูกแทนที่ด้วยระบบ นายหน้าที่ทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย ระบบนายหน้าเป็นตัวบิดเบือนกลไกที่ทำให้แรงงานไม่ได้รับความเป็นธรรมตามกฎหมาย ซึ่งเวลาติดต่อหน่วยงานราชการเราต้องยอมรับความจริงว่านายจ้างส่วนมากจะต้องติดต่อผ่านระบบนายหน้า ซึ่งระบบนายหน้าก็จะเป็นระบบที่หาผลประโยชน์กับทั้งแรงงานและนายจ้างจึงทำให้เกิดปัญหา ดังนั้น หากจะแก้ให้ตรงจุดต้องแก้ที่ระบบนายหน้า

จี้ก.แรงงานจัดการพวกอิทธิพล

นายพร้อมบุญ พานิชภักดิ์ ผอ.มูลนิธิรักษ์ไทย กล่าวว่า เครือข่ายนายหน้าทำให้ราคาในการพิสูจน์สัญชาติแรงงานข้ามชาติเพิ่มขึ้นเท่าตัว ซึ่งนายหน้าไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ และต้องมีเครือข่ายของระบบที่ต้องทำงานข้ามไปมา ระหว่าง 2 ประเทศ ดังนั้น เราต้องมีการจัดระบบของนายหน้า โดยมีนายจ้างหลายคนพยายามในการดำเนินการ เอง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการพิสูจน์สัญชาติ ทั้งนี้ แรงงานข้ามชาติที่อยู่ในประเทศต้นทางและต้องเดินทางมาประเทศปลายทางอย่างประเทศไทยเพื่อเข้ามาทำงานนั้นยังได้รับข้อมูลที่บกพร่องอย่างมาก ถ้าเราไม่สามารถทำตรงนี้ได้ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ กระบวนการนายหน้าเกี่ยวข้องโดยตรงกับภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงแรงงานจำเป็นที่จะต้องนำเรื่องนี้ขึ้นมาบนโต๊ะ เพราะปัจจุบันยกเป็นเรื่องที่คลุมเครือ ซ่อนเร้น และเป็นเรื่องของอำนาจและอิทธิพล

แนะประกันสังคมทบทวนสิทธิ์

ขณะที่นายเสถียร ทันพรหม ประธานเครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติ (ANM) กล่าวว่า ปัญหาของการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ทดแทนตามกฎหมายประกันสังคมของแรงงานข้ามชาติมี 7 กรณี ดังนี้ 1.กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน ผู้ประกันตนไม่ว่าสัญชาติใดควรเข้าถึงการรักษาพยาบาลโดยทันที ต้องไม่มีเงื่อนไขเวลากำกับว่าต้องส่งเงินสมทบมาแล้ว 3 เดือน 2.กรณีคลอดบุตร แรงงานข้ามชาติที่มีทะเบียนสมรสจากประเทศต้นทาง และแรงงานที่อยู่กินกันฉัน สามีภรรยา ย่อมเข้าถึงสิทธินี้ได้ 3.กรณีทุพพลภาพ หากทำการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร แรงงานที่เข้าไม่ถึงบริการเงินฝากหรือธนาคารจะมีวิธีในการจัดงานเงินตรงส่วนนี้ได้อย่างไร เพราะบางคนก็มาจากพื้นที่ห่างไกล 4.กรณีตาย ทายาทของแรงงานข้ามชาติจะเข้าถึงเงินสงเคราะห์ได้ในรูปแบบไหน อย่างไรบ้าง เพราะ หลักเกณฑ์ในเรื่องนี้ก็ไม่ชัด

ประธานเครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติ กล่าวต่ออีกว่า 5.กรณีสงเคราะห์บุตร  แรงงานข้ามชาติอยู่ในประเทศไทยได้แค่ 4 ปี แต่บุตรมีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์จนถึง 6 ปี เมื่อต้องสิ้นสุด การประกันตน แรงงานข้ามชาติจะมีสิทธิรับเงินสงเคราะห์บุตรต่อเนื่องได้หรือไม่ ถ้าต้องเดินทางกลับประเทศต้นทาง 6.กรณีชราภาพ เงื่อนไขที่แรงงานจะไดบำนาญชราภาพต้องเข้า 3 องค์ประกอบคือ ส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 180 เดือน หรือ 15 ปี  อายุขั้นต่ำ 55 ปี และออกจากงาน แต่ปัญหาของแรงงานข้ามชาติคือแรงงานทำงานได้แค่ 4 ปี ก็ต้องออกจากงานแล้วเขาจะได้รับเงินสมทบในเรื่องนี้ ได้อย่างไร และ 7.กรณีว่างงาน แรงงานข้ามชาติที่สิ้นสุดการเป็นลูกจ้างต้องถูกส่งกลับประเทศต้นทาง หรือต้องหานายจ้างใหม่ให้ได้ภายใน 7-15 วัน ถ้านายจ้างเลิกจ้างเพราะไมใช่ความผิดของลูกจ้าง แรงงานจะเข้าถึงบริการจัดหางาน การพัฒนาฝีมือแรงงาน หรือเงินทดแทนการขาดรายได้ได้อย่างไร ถ้าต้องรีบหานายจ้างใหม่โดยเร็วหรือต้องถูกส่งกลับ ปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่แรงงานข้ามชาติต้องพบเจอและไม่มีความชัดเจนให้แก่แรงงานเลย สิ่งที่สำคัญ คือ ประกันสังคมต้องทบทวนสิทธิต่างๆ เหล่านี้ให้สอดคล้องกับแรงงานข้ามชาติด้วย

สปส.อ้างติดขัดชื่อ-เลขแสดงตน

ขณะที่นายอารักษ์ พรหมณี รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า การออกแบบระบบประกันสังคมเป็นการออกแบบเพื่อคนไทย แรงงานไทย ดังนั้น สิทธิประโยชน์ต่างๆ จึงเกื้อหนุนแรงงานไทยเป็นหลัก แต่ปัญหาสำคัญของแรงงานข้ามชาติที่ทำให้ติดปัญหาการเข้าถึงระบบ คือ แรงงานส่วนใหญ่มีแต่ชื่อที่ไม่มีนามสกุล การให้เลขในการแสดงตน และประเทศไทยยังคำนึงถึงเรื่องของความมั่นคง นอกจากนี้ เรื่องของการนำเข้าแรงงานต่างด้าว แรงงานข้ามชาติจะพูดเรื่องของการหางานก่อน แล้วค่อยพูดถึงเรื่องประกันสังคม ซึ่งความเป็นจริงนายจ้างที่ต้องการแรงงานจะต้องมาขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมก่อน จ่ายเงินมัดจำ จากนั้นจึงไป ขึ้นทะเบียนเพื่อขอแรงงาน

แนะตั้งกองทุนประกันฯอาเซียน

"การแก้ปัญหาดังกล่าวทางหนึ่ง คือ ควรจัดตั้งกองทุนประกันสังคมแรงงานอาเซียน ซึ่งเป็นการรวมตัวกันเพื่อให้แรงงานได้รับสิทธิประโยชน์ มีกลไกและระบบการดำเนินการให้กับ แรงงานข้ามชาติที่จะสามารถรับเงินและติดต่อตามกระบวนการได้ โดยกองทุนดังกล่าวจะต้องเป็นกองทุน ที่ตั้งขึ้นในหลายๆ ประเทศที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน นอกจากนี้ควรมีการรวมตัวของสมาคมวิชาชีพต่างๆ ที่ตั้งขึ้นมา เพื่อรับรองให้การทำงานของแรงงานถูกกฎหมาย มีระบบที่สามารถกำกับดูแลตนเองได้ แต่ปัจจุบันยังติดปัญหา คือ ไม่สามารถรวมตัวกันได้ ดังนั้น จึงต้องเป็นการบ้านในการหาทางออกต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับการแก้ปัญหา เบื้องต้นกระทรวงแรงงานได้ดำเนินการแก้กฎหมายเรื่องแรงงานข้ามชาติแล้วว่าสามารถรับเงินคืนได้เมื่อกลับประเทศ แต่ทั้งนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างกระบวนการดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง และจากนี้จะเชิญทุกภาคส่วนเข้ามาหารือ เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาให้เกิดความเป็นธรรม ต่อไป" นายอารักษ์ กล่าว

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 17 ธันวาคม 2555

เรื่องที่เกี่ยวข้อง