ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

สืบเนื่องจากการคัดค้านนโยบายการจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงานหรือ P4P ของกระทรวงสาธารณสุข และนโยบายเมดิคัลฮับที่ส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจการแพทย์เอกชน มีความสอดคล้องกัน

นพ.พรเทพ โชติชัยสุวัฒน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทย จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า “พัฒนาการตลอด 40 ปีของโรงพยาบาลชุมชน เราดูแลคนไทยกว่า 40 ล้านคนหรือ 2 ใน 3 ของประเทศไทย แต่จนถึงปัจจุบันจำนวนแพทย์ในโรงพยาบาลชุมชนก็เพิ่มอย่างช้าๆถึงช้ามาก โดยมีจำนวนราว 3,000 เศษเท่านั้น กระจายใน 740 โรงพยาบาลชุมชน คิดแล้วก็เศร้า เพราะเครือโรงพยาบาลกรุงเทพในปัจจุบันมีแพทย์ทั้ง full time และ part time รวมกันกว่า 7,000 คน และมีเป้าหมายที่จะขยายสาขาจาก 32 แห่งไปให้ได้ 50 แห่งในปี 2558 มีแพทย์ทั้งสิ้น 11,000 คน เพื่อดูแลทั้งคนไทยที่มีความสามารถในการจ่าย และชาวต่างชาติทั้งฝรั่ง อาหรับ ญี่ปุ่น เกาหลี ที่พร้อมจะมาใช้บริการเพราะราคาค่ารักษายังไงก็ถูกกว่าประเทศเขาเอง  โรงพยาบาลเอกชนเติบโตมุ่งทำกำไรก็ดึงแพทย์จากโรงเรียนแพทย์ไป โรงเรียนแพทย์ดึงจากโรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลจังหวัดดึงจากโรงพยาบาลชุมชนเป็นลูกโซ่ โรงพยาบาลชุมชนจะไปดึงจากไหน ขาดแพทย์และพยาบาลแน่นอน เช่นนี้ต่อไปใครจะมารักษาคนชนบท”

นพ.พรเทพ ยังกล่าวต่อว่า “แม้ว่าปัจจุบันจะมีการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบทแท้จริงก็เพื่อป้อนแพทย์ให้กับเมืองใหญ่และเอกชน เพราะเงื่อนไขใช้ทุน 3 ปีเท่านั้น เมื่อครบใช้ทุนส่วนใหญ่ก็ไปเรียนต่อแล้วกลับมาทำงานในเมือง ทั้งนี้เพราะรัฐบาลไม่เคยจริงใจและจริงจังกับการดูแลรักษาให้แพทย์อยู่ในชนบทได้เลย คนชนบทจึงเสียโอกาสอยู่ร่ำไป

โรงพยาบาลเอกชนส่วนใหญ่ของประเทศไทยเติบโตในอัตราเร่งมาตลอดแม้จะไม่มีการส่งเสริมจากรัฐบาล แต่เมื่อรัฐบาลเปิดนโยบายเมดิคัลฮับ เปิดเงื่อนไขให้ชาวต่างชาติเข้ามารักษาโรคได้สะดวก ส่งเสริมให้โรงพยาบาลเอกชนขยายตัว ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ ส่งเสริมการลงทุน ส่งเสริมการนำเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น ผลิตแพทย์พยาบาลด้วยภาษีประชาชนแต่ไม่ส่งเสริมให้คงอยู่ในโรงพยาบาลของรัฐ ไม่ควบคุมราคาค่าบริการของเอกชน  ไม่มีคณะกรรมการกำกับตรวจสอบมาตรฐานบริการและราคา เป็นต้น ทั้งหมดนี้ทำไปเพื่อให้เอกชนเติบโต เปิดเงื่อนไขให้วิชาชีพด้านสุขภาพสมองไหลอย่างชอบธรรม”

นพ.พรเทพเสริมว่า “ยิ่งมีการประกาศนโยบาย P4P ก็เป็นหนึ่งในมาตรการที่ในมุมกลับทำให้แพทย์ลาออกมากขึ้น เพราะความเบื่อหน่ายต่อระบบที่มีแต่กฏเกณฑ์ที่ไม่เข้าท่าหรือความไม่ยุติธรรมที่ได้รับ และการไปอยู่โรงพยาบาลของรัฐในเมืองยังได้ค่าตอบแทน P4P กว่าการอยู่ในโรงพยาบาลชุมชนด้วย ต่อไปโรงพยาบาลชุมชนจะขาดแพทย์ ถึงตอนนั้นรัฐมนตรีประดิษฐก็ไม่ได้บริหารกระทรวงแล้ว คนที่รับกรรมก็คือคนรากหญ้าชาวบ้านในชนบท”

นพ.พรเทพ ย้ำว่า “นโยบาย P4P เมื่อบวกกับนโยบายเมดิคัลฮับ จะเสริมพลังหายนะกันได้อย่างน่ากลัว ส่งผลให้สมองไหลออกจากภาครัฐอย่างรุนแรงในเร็วๆนี้ ดังสมการ  P4P + เมดิคัลฮับ = สมองไหล2