ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ห้องประชุมโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย อ.โคกสาโรง จ.ลพบุรี นพ.ศิริชัย ลิ้มสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ลพบุรี จัดงาน "รวมพลัง อสม. ขจัดภัยร้าย กาจัดยุงลาย พิชิตไข้เลือดออก จังหวัดลพบุรี" โดยมี อสม.ประชาชน, ภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม.ร่วมกิจกรรม เพื่อตระหนักในการประสานความร่วมมือป้องกันแก้ปัญหาโรคไข้เลือดออก

นพ.อภิชาติ รอดสม นายแพทย์ สสจ.กาญจนบุรี กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออกปีนี้รุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา มีอัตราป่วยและ เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกสูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 2 เท่าปี จ.กาญจนบุรี พบผู้ป่วย 286 รายเท่ากับ 34.09 ต่อประชากรแสนคน โดยเฉพาะ อ.สังขละบุรี พบ ผู้ป่วย 8 ราย อัตราป่วยเท่ากับ 19.57 ต่อประชากรแสนคน ไม่มีผู้ป่วยเสียชีวิต แม้สถานการณ์ อ.สังขละบุรี ยังไม่รุนแรง แต่บริเวณชายแดนไทย-พม่า พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น คาดว่าการระบาดมีแนวโน้มสูงขึ้นหากไม่มีมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่เป็นรูปธรรม

"สสจ.กาญจนบุรี โดยคณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขอาเภอสังขละบุรี (คปสอ.สังขละบุรี) ร่วมกับหัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนไทยพม่า ประจาพื้นที่ 4 ผู้นาชุมชน ใน อ.พญาตองซู ประเทศพม่า จึงจัดการรณรงค์ควบคุมป้องกันโรคไข้เลือดออกชายแดนไทย-พม่า แบบบูรณาการ 2 ประเทศขึ้น โดยเน้นความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และประชาชน ภาคีเครือข่ายสุขภาพของ 2 ประเทศ ช่วยควบคุม ป้องกันโรค โดยทาลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกนายุงลายซึ่งเป็นพาหะนาโรคอย่างสมาเสมอตลอดทั้งปี, จัดการด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชนให้สะอาด ปลอดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกนายุงลาย, ให้ความรู้สุขศึกษา ประชาสัมพันธ์ ความรู้เกี่ยวกับการสังเกตอาการและการดูแลผู้ป่วยแก่ประชาชน" นพ.อภิชาติกล่าว

นายชัยรัตน์ เวชพาณิช นายแพทย์ สสจ.สมุทรสาคร กล่าวว่า สถานการณ์ จ.สมุทรสาคร อยู่ในลาดับ 30 ของประเทศ พบผู้ป่วย 435 ราย ยังมีระบาดต่อเนื่อง จึงร่วมกับนายปิยภูมิ อุบลไทร กานันตาบลท่าทราย ปล่อยแถวคาราวานรณรงค์ทาลาย แหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย ตามโครงการ "บ้านใคร บ้านคนนั้น ต้องทาเอง" ตามหลักมาตรการ ปฏิบัติ 5 ป 1 ข

นพ.นรินทร์รัชต์ พิชยคามินทร์ นายแพทย์ สสจ.สิงห์บุรี กล่าวว่า จ.สิงห์บุรีตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยรวม 66 ราย คิดเป็นอัตรา 29 ต่อแสนประชากร มีค่ามัธยฐานสูงขึ้นเป็น 2 เท่าครึ่งในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา และเริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงจึงต้องมีมาตรการเข้มแข็งและเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง ฤดูฝน หากไม่ร่วมป้องกัน อาจระบาดได้ โดย เฉพาะใน 2 กลุ่มเสี่ยง คือ เด็กอายุ 10-14 ปี และกลุ่มคนทางานอายุระหว่าง 20-30 ปี

--มติชน ฉบับวันที่ 22 ก.ค. 2556 (กรอบบ่าย)--