ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

แนวหน้า - นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากผลสำรวจล่าสุดพบว่า คนไทยดื่มนมน้อยมาก เฉลี่ยคนละประมาณ 14 ลิตรต่อปี ในขณะที่อัตราการดื่มนมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เฉลี่ยคนละ 60 ลิตรต่อปี และทั่วโลกเฉลี่ย คนละ 103.9 ลิตรต่อปี หรือกล่าวได้ว่าอัตราดื่มนมคนไทยยังต่ำกว่าประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโลก 4-7 เท่า ส่งผลให้เด็กไทยเมื่อมีอายุ 18 ปี มีความสูงเฉลี่ยค่อนข้างเตี้ย โดยผู้ชายสูงเฉลี่ย 167.1 เซนติเมตร ผู้หญิงสูงเฉลี่ย157.4 เซนติเมตร

ดร.นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ส่งเสริมให้ดื่มนมทุกเพศทุกวัย เริ่มตั้งแต่ให้เด็กหลังคลอดกินนมแม่อย่างเดียวตลอด 6 เดือน เนื่องจากนมแม่เป็นนมที่มีคุณภาพช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดี ร่างกายเจริญเติบโตแข็งแรงสมวัย สติปัญญาดี หลังจากนั้นแนะนำให้ดื่มนมเหมาะสมตามวัย ได้แก่ วัยเด็กที่ยังต้องการสารอาหารเพื่อการเจริญเติบโต โดยเด็กก่อนวัยเรียนให้ดื่มนมชนิดธรรมดาวันละ 2-3 แก้ว วัยเรียนดื่มวันละ2 แก้ว วัยผู้ใหญ่และผู้สูงอายุเป็นวัยที่ต้องการสารอาหารเพิ่มซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้ดื่มนมพร่องมันเนยหรือนมขาดมันเนย วันละ 1 แก้ว เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะไขมันเกิน สำหรับหญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงให้นมบุตร ควรดื่มนมวันละ 2-3 แก้ว โดยมีเป้าหมายให้เด็กไทยวัย 18 ปี เติบโต สมวัย มีหุ่นสูงสมาร์ท โดยให้ผู้ชายสูงเฉลี่ย 175 เซนติเมตร ผู้หญิงสูงเฉลี่ย 162 เซนติเมตร และคนไทยอายุยืนเฉลี่ย 80 ปีภายในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือในปี 2566

นอกจากนมจะมีโปรตีนที่มีคุณภาพและแคลเซียมที่ดีซึ่งทำหน้าที่สร้างการเจริญเติบโตของร่างกายในเด็ก และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในผู้ใหญ่แล้ว นมยังเป็นแหล่งของสารอาหารประเภทวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ได้แก่ วิตามินเอ ดี บี 1 บี 2 บี 6

บี 12 ฟอสฟอรัส สำหรับนมที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์เป็นการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยร่วมกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการผ่านโครงการอาหารเสริม หรือนมโรงเรียนเพื่อช่วยเพิ่มความต้านทานต่อกรดให้ผิวเคลือบฟัน ซึ่งหากได้รับฟลูออไรด์ที่พอเหมาะจะทำให้มีโอกาสฟันผุน้อยลงรวมทั้งยังช่วยชะลอการย่อยสลายของแร่ธาตุและเสริมกระบวนการคืนกลับของแร่ธาตุบนผิวเคลือบฟัน

“ทั้งนี้ การดื่มนมเป็นประจำทุกวันเพื่อให้มีสุขภาพดีและเด็กเติบโตสูงใหญ่เต็มตาม ศักยภาพแล้ว ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เพียงพอโดยเฉพาะผักและผลไม้ควบคู่ไปด้วย เพื่อที่จะได้รับสารอาหารได้ครบถ้วนตามความต้องการของร่างกายรวมทั้งการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ”

ที่มา: http://www.naewna.com