ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

บ้านเมือง - รศ.ดร.ภก.วิทยา กุลสมบูรณ์ ผู้จัดการแผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ (คคส.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงการยกเลิกการใช้แร่ใยหินแอสเบสตอส ว่า ประเทศฮ่องกง ได้ประกาศใช้กฎหมายการควบคุมมลพิษทางอากาศ 2013 เพื่อดำเนินการยกเลิกการใช้แร่ใยหินแอสเบสตอสทุกชนิด (รวมถึงแร่ใยหินสีขาว หรือ ไครโซไทล์) โดยโฆษกกรมป้องกันสิ่งแวดล้อม ได้ขยายขอบเขตการควบคุมการนำเข้าและการขายแร่ใยหิน จากเดิมที่เคยยกเลิกแร่ใยหินคลอซิโดไลท์ หรือใยหินสีฟ้า และอโมไซท์ หรือใยหินสีน้ำตาล รวมทั้งกิจการที่เกี่ยวกับการผลิตวัสดุที่ใช้ใยหินเหล่านี้ เป็นการยกเลิกการนำเข้าการส่งต่อทางเรือ การขาย การใช้แร่ใยหินทุกชนิด และวัสดุที่มีแร่ใยหินทุกชนิด การบังคับใช้ตามกฎหมายนี้ยังมีผลต่อข้อบังคับในการควบคุมโรงงานและการอุตสาหกรรม ทั้งนี้ กฎหมายยกเลิกการใช้แร่ใยหินนี้ระบุโทษสูงสุดสำหรับการละเมิดไว้ถึง 800,000 บาท และจำคุก 6 เดือน

รศ.ดร.ภก.วิทยา กุลสมบูรณ์ กล่าวว่า ฮ่องกง เป็นอีกหนึ่งประเทศในเอเชียต่อจากญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ บรูไน ไต้หวัน ที่ยกเลิกการใช้แร่ใยหินแล้ว เช่นเดียวกับ ยุโรป ออสเตรเลีย ประเทศไทยเสียโอกาสลดความเสี่ยงจากใยหิน ทั้งที่มี มติ ครม.มาแล้ว แต่ยังหวังผลประโยชน์การค้าจากรัสเซียมากกว่าชีวิต ผู้ใช้แรงงานและผู้บริโภคไทยแทนที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำเรื่องนี้ในอาเซียน ทั้งนี้ แร่ที่ใยหินแอสเบสตอสเป็นสารก่อมะเร็งและการสูดอาณุภาคของใยหินจะทำให้เกิดโรคแอสเบสโตซิส โรคปอดและมะเร็งเยื่อหุ้มปอด ดังนั้นการยกเลิกการใช้ใยหินทั้งหมดทุกชนิดจึงเป็นการขจัดความเสี่ยงต่อสุขภาพและเป็นการป้องกันสิ่งแวดล้อม

นางสมบุญ สีคำดอกแค ผู้ประสานงานเครือข่าย T-BAN และสภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยฯ เครือข่ายแรงงาน ได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้องขอทราบความคืบหน้าของการดำเนินการของกระทรวงสาธารณสุข โดยขอให้เปิดเผยรายงานผลการศึกษาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพจากแร่ใยหิน โดยคณะกรรมการศึกษาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพจากแร่ใยหินโดยเร็วที่สุด และแสดงความเป็นห่วงจากที่ได้รับทราบการที่นายกรัฐมนตรี จะได้ไปเยือนประเทศรัสเซีย และมีแนวโน้มที่จะมีการพูดคุยในเรื่องการให้มีการใช้ใยหินต่อไปในประเทศไทย จึงมีความกังวลต่อการที่ประเทศไทยได้นำประเด็นเรื่องการค้ากับประเทศรัสเซีย มาประกอบในการพิจารณาที่จะยกเลิกการใช้ใยหินไครโซไทล์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการนำเอาประโยชน์ที่จะได้รับทางการค้า มาใช้ตัดสินโดยไม่คำนึงถึงชีวิตและสุขภาพของประชาชน

ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง  วันที่ 7 ตุลาคม 2556