ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่  เปิดเผยว่า  บรูไนเป็นประเทศแรกที่ลดจุดขายบุหรี่ในอาเซียน  โดยขณะนี้บรูไนได้ลดใบอนุญาตร้านค้าบุหรี่ลงเหลือ 70  ร้านจากเดิมที่มีกว่า 400 ร้านทั่วประเทศ  โดยกำหนดให้มีร้านขายบุหรี่เพียงหนึ่งร้านในรัศมีพื้นที่หนึ่งตารางกิโลเมตร 

บรูไนมีคนที่สูบบุหรี่ 71,000  คน  จากจำนวนประชากรสี่แสนคน  ซึ่งเฉลี่ยร้านขายบุหรี่หนึ่งร้านจะมีลูกค้าที่เป็นผู้สูบบุหรี่หนึ่งพันคน  เปรียบเทียบกับประเทศไทยที่มีผู้สูบบุหรี่ซองที่ผลิตจากโรงงานประมาณหกล้านคน และมีร้านค้าปลีกประมาณหกแสนร้าน  ซึ่งเท่ากับว่าร้านค้าปลีกในไทยมีลูกค้าเฉลี่ยร้านละ 10 คน  ปัจจุบันกฎหมายบรูไนห้ามแสดงซองบุหรี่ที่จุดขาย และราคาขายปลีกบุหรี่ซองละ 200 บาท  ทั้งนี้การลดจำนวนจุดขายเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำคัญที่สุดในการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่  ก่อนที่จะห้ามขายในที่สุด  ซึ่งสุลต่าน ฮาจี ฮัซซานัล โบลเกียห์ กษัตริย์แห่งบรูไนเคยกล่าวอมตะวาจาไว้ว่า  “เกี่ยวกับยาสูบ  มีฝ่ายที่มีความเห็นว่ายาสูบมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ  และเป็นแหล่งรายได้  แต่อีกฝ่ายหนึ่ง  ก็เป็นความจริงที่ว่ายาสูบเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสุขภาพและถึงแก่ชีวิต  ในทางเศรษฐกิจ  เรามีทางเลือกมากมาย แต่เกี่ยวกับสุขภาพและชีวิต  เรามีทางเลือกอื่นหรือไม่  คำตอบก็คือไม่มี  ประเด็นจึงอยู่ที่ว่าเราจะเลือกการอยู่รอดของธุรกิจด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ  ซึ่งมีทางเลือกที่หลากหลาย หรือเราควรจะเลือกการคุ้มครองสุขภาพและชีวิต  ซึ่งไม่มีทางเลือกอื่นเลย”