ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ไทยรัฐ - ผลสำรวจเอแบคโพลล์เผยความคิดเห็นประชาชน แพทย์ พยาบาล ผู้ให้บริการต่อระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าปี 56 พบประชาชนให้คะแนนพึงพอใจ 8.43 และผู้ให้บริการพึงพอใจ 7.01 จากคะแนนเต็มสิบ ประชาชนพึงพอใจต่อคุณภาพการรักษาพยาบาล คุณภาพยา และผลการรักษา ขณะที่ผู้ให้บริการตระหนักถึงประโยชน์ของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่มีต่อประชาชน แต่ยังกังวลเรื่องความคาดหวัง กำลังคน และงบประมาณ

วันที่ 7 พ.ย. 56 นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน (เอแบคโพลล์) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้ดำเนินโครงการสำรวจวิจัยเรื่อง “ความคิดเห็นของประชาชน และผู้ให้บริการต่อโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (พ.ศ. 2556)” โดยสำรวจประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปที่มีสิทธิ์หลักประกันสุขภาพถ้วน จำนวน 2,730 ตัวอย่าง และกลุ่มผู้ให้บริการได้แก่ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล และ ผอ.รพ.ทุกระดับ ผู้อำนวยการศูนย์บริการสาธารณสุข/ตัวแทน) จำนวนทั้งสิ้น 1,349 ตัวอย่าง

ทั้งนี้ ผลการสำรวจกลุ่มประชาชน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการได้รับสิทธิ์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยให้คะแนนความพึงพอใจ (จาก 1-10 คะแนน) เฉลี่ยเท่ากับ 8.43 คะแนน ซึ่งคนที่เคยใช้สิทธิบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าจะมีความพึงพอใจสูงมากกว่าคนทั่วไป โดยพบว่าผู้ที่เคยใช้สิทธิบัตรหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในการรักษาพยาบาลในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา มีค่าคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ยเท่ากับ 8.62 และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 70.6 รับทราบว่าคนไทยทุกคนที่ไม่มีสิทธิ์รักษาพยาบาลจากสิทธิ์อื่น จะเป็นผู้มีสิทธิ์รักษาพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สำหรับสถานพยาบาลที่ตั้งใจจะไปเมื่อเจ็บป่วย คือ สถานพยาบาลระดับปฐมภูมิสูงที่สุดคือ ร้อยละ 71 โดยให้เหตุผลว่าเพราะเดินทางสะดวกใกล้บ้าน ที่ทำงาน

อย่างไรก็ตาม โดยผลสำรวจยังพบว่า ประชาชนให้ความพึงพอใจในคุณภาพการรักษาพยาบาล 8.67 รองลงมาคือคุณภาพด้านยา 8.53 และผลของการรักษา 8.52 ข้อสังเกตจากการศึกษากลุ่มประชาชนพบว่า ปี 2556 ประชาชนมีความพึงพอใจต่อระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสูงกว่าปีที่ผ่านมา นับจากที่เคยมีการสำรวจตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา พบว่า ปี 2550 เป็นปีที่มีความพึงพอใจต่ำสุด คือ 7.73 คะแนน หลังจากนั้นตั้งแต่ปี 2551-2554 เวลา 4 ปีติดต่อกัน คะแนนความพึงพอใจเพิ่มขึ้นตลอด มาเป็น 8.52 คะแนน ในปี 2554 จากนั้นในปี 255 ลดลงมาอยู่ที่ 8.29 คะแนน และในปี 2556 เพิ่มเป็น 8.43 ส่วนผลการสำรวจกลุ่มผู้ให้บริการว่า ผู้ให้บริการมีความพึงพอใจต่อระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 7.01 คะแนน ซึ่งผู้ให้บริการเล็งเห็นประโยชน์ความพอใจในผลที่เกิดกับประชาชนมากกว่าผลที่เกิดกับตนเอง ขณะที่ผลสำรวจการให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติงาน ให้ความสำคัญกับความคาดหวังของผู้ป่วยมากที่สุด 8.49 คะแนน รองลงมาคือ ความเพียงพอของงบประมาณดำเนินการ และการตรวจสอบสิทธิตามลำดับ ซึ่งสะท้อนว่าให้ความสำคัญกับประชาชนสูง และมีความเห็นว่าจุดเน้นที่ควรปรับปรุงเพื่อตอบสนองความพึงพอใจ คือ สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเพื่อลดช่องว่างระหว่างความคาดหวังกับความสามารถในการตอบสนองความต้องการ โดยเฉพาะความเข้าใจในสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับอย่างเหมาะสม การจัดระบบกำลังคนให้สอดคล้องกับปริมาณงาน และจัดระบบงบประมาณให้เพียงพอ ทั่วถึง และรวดเร็ว

ที่มา: http://www.thairath.co.th