ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ข่าวหุ้น - CHG ย้ำ “อภิรุม ปัญญาพล” หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทขายหุ้น ไม่ใช่เพราะบริษัทมีปัญหา โชว์ผลประกอบการไตรมาส 3/56 เด็ดโตกว่า 58.75% ลั่นปีหน้ารายได้และกำไรสุทธิโตอีก 10%

นายกำพล พลัสสินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG เปิด เผยว่า จากการที่นายอภิรุม ปัญญาพล ผู้ถือหุ้นใหญ่คนหนึ่งของบริษัทได้เทขายหุ้นของบริษัทออกมาเป็นจำนวนมากนั้น บริษัทยืนยันว่าไม่ใช่เพราะบริษัทกำลังประสบปัญหา เห็นได้จากผลประกอบการของบริษัทไตรมาส 3/56 ที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 126.57 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนประมาณ 58.75 % โดยในงวด 9 เดือนแรกของปี 2556 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 306.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนประมาณ 64.56 %

“การ ที่คุณอภิรุมขายหุ้นของบริษัทออกมานั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดาในฐานะนักลงทุนคนหนึ่งที่สามารถทำได้ เพียงแต่ว่าการขายหุ้นของนายอภิรุม ในกระดานซื้อขายหลักทรัพย์ปกติเป็นจำนวนมากแบบนี้ ทำให้ต้องแจ้งให้แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต รับทราบและถูกบันทึกอยู่ในแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้ บริหาร (แบบ 59-2) น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนกังวลใจว่าผู้บริหารของบริษัทได้มีการ ขายหุ้นออกมา โดยความเป็นจริงแล้วคุณอภิรุม ไม่ได้มีส่วนในการบริหารงานของบริษัท แต่เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัทนับตั้งแต่ก่อตั้ง” นายกำพล กล่าว

นอกจากนี้ สำหรับผลประกอบการบริษัทปีหน้านั้น บริษัทคาดว่าจะเติบโตได้ประมาณ 10 % จากปีนี้ทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิ โดยปีหน้าโรงพยาบาลแห่งใหม่บริษัทที่จังหวัดปราจีนบุรี เฟสแรกน่าจะเปิดให้บริการได้ก่อนตอนเดือนมีนาคม 2556 ในส่วนของผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยฉุกเฉิน จากนั้นอีกประมาณสองปี การก่อสร้างก็จะแล้วเสร็จทั้งหมดและเปิดให้บริการได้ครบวงจร

โดยโรงพยาบาลแห่งใหม่นี้มีขนาด 150 เตียง ใช้งบลงทุนทั้งหมดประมาณ 400 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรีใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ที่นั้น ซึ่งบริษัทจะเน้นเจาะกลุ่มลูกจ้างและพนักงานซึ่งมีประกันสังคม ที่ทำงานอยู่ในโรงงานเขตนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่นั้น

อย่าง ไรก็ตามปีหน้าบริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากโรงพยาบาลชลเวชจังหวัดชลบุรีได้ประมาณ 100 ล้านบาท โดยโรงพยาบาลชลเวชนั้น เป็นโรงพยาบาลที่บริษัทซื้อกิจการมาด้วยเงินลงทุนทั้งสิ้น 59.40 ล้านบาท บริษัทยังจะใช้เงินลงทุนปรับปรุงอีกประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อขยายเตียงจาก 28 เตียงเป็น 57 เตียงและเน้นผลักดันให้เป็นศูนย์เฉพาะทางด้านหัวใจ

สำหรับแนวโน้มรายได้บริษัทปีนี้คงเป็นไปตามเป้าตั้งไว้ 20% อย่างแน่นอน เนื่องจากรายได้ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของบริษัทก็ถือว่าเป็นไปตามเป้าและในไตรมาส 4/56 เป็นไตรมาสสุดท้ายปีนี้เป็นไปตามเป้าเช่นกัน เพราะบริษัทได้เพิ่มศักยภาพในการให้บริการกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องการขยายพื้นที่ให้บริการ

ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น  วันที่ 18 พฤศจิกายน 2556