ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปส.เปิดตัวมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 รับสิทธิประโยชน์เฉพาะกรณีชราภาพ เริ่มรับสมัครตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.ปีนี้-8 ธ.ค.ปีหน้า คาดมีผู้ประกันตนที่อายุเกิน 55 ปี ที่มีสิทธิรับเงินบำนาญกว่า 1 แสนคน แจงต้องใช้เวลา 2 เดือนถึงโอนเงินเข้าบัญชีได้ ยันนายจ้างจ่ายเงินสมทบไม่ครบ พร้อมจ่ายเงินบำนาญชราภาพ หากตรวจสอบพบผู้ประกันตนจ่ายจริง

วันนี้ (25 พ.ย.) นางอำมร เชาวลิต เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวในการแถลงข่าวการขยายความคุ้มครองมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 ที่สำนักงานประกันสังคม จ.นนทบุรี ว่า สปส.ได้ขยายความคุ้มครองประกันสังคมมาตรา 40 ไปสู่แรงงานนอกระบบโดยเปิดทางเลือกที่ 3 ให้สิทธิประโยชน์เฉพาะกรณีชราภาพโดยต้องจ่ายเดือนละ 200 บาท ผู้ประกันตนจ่ายเอง 100 บาท รัฐบาลร่วมจ่าย 100 บาท และสามารถส่งเงินออมเพิ่มเติมได้ไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือน หากจ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 420 เดือน จะได้รับเป็นเงินบำนาญชราภาพแต่หากจ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 420 เดือนจะได้รับเงินบำเหน็จพร้อมผลประโยชน์ตอบแทนตามที่ สปส.ประกาศแต่ละปีโดยเงินกรณีชราภาพจะได้รับเมื่ออายุ 60 ปีบริบูรณ์ และไม่ประสงค์เป็นผู้ประกันตนอีกต่อไป

เลขาธิการ สปส.กล่าวอีกว่า สปส.จะเริ่มเปิดรับสมัครประกันสังคมมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.นี้ จนถึงวันที่ 8 ธ.ค.2557 แรงงานนอกระบบที่มีอายุ 15-65 ปี จะสมัครทางเลือกใดก็ได้หรือสมัครทางเลือกที่ 1 กับ 3 หรือทางเลือกที่ 2 กับ 3 ได้ตามต้องการ แต่หากผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปี จะสมัครได้เฉพาะทางเลือกที่ 3 หลังจากนั้นนับตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.2557 จะรับสมัครเฉพาะผู้ที่มีอายุ 15-60 ปีเท่านั้น โดยสามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังไปถึงเดือน พ.ค.2555 ซึ่งรัฐบาลจะร่วมจ่ายเงินอุดหนุนด้วยเช่นกัน 

นางอำมร กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ปี 2557 เป็นปีแรกที่ สปส.จะจ่ายเงินสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพเป็นเงินบำนาญ ซึ่ง สปส.สำรวจพบว่ามีผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และส่งเงินสมทบครบ 180 เดือน ตามเงื่อนไขที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพทั้งหมด 113,361 คนโดยผู้ประกันตนสามารถมาตรวจสอบเงินสมทบชราภาพได้ด้วยตนเองโดยใช้เลขทะเบียนบัตรประชาชนลงทะเบียนที่ www.sso.go.th และมายื่นเรื่องขอรับเงินบำนาญชราภาพโดยกรอกแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2-01) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ที่มีชื่อและเลขบัญชีของผู้ที่มีสิทธิรับเงินบำนาญชราภาพได้ที่ สปส.กรุงเทพฯ และ สปส.จังหวัดต่างๆ โดย สปส.จะจ่ายเงินบำนาญชราภาพซึ่งเป็นเงินรายเดือนผ่านธนาคาร 9 แห่งที่ลงนามความร่วมมือกับ สปส.ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทย ธนาคารธนชาต ธนาคารซีไอเอ็มบี และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ สปส.จะจ่ายเงินบำนาญชราภาพล่าช้าออกไป 2 เดือน เนื่องจากต้องรอนายจ้างจ่ายเงินสมทบงวดสุดท้ายและใช้เวลาคำนวณเงินสิทธิประโยชน์พร้อมผลตอบแทนโดยผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพในเดือน ธ.ค.2556 สปส.จะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้รับเงินบำนาญภายในสิ้นเดือน ก.พ.2557

“ส่วนกรณีที่ผู้ประกันตนมีปัญหานายจ้างเก็บเงินสมทบจากลูกจ้างไปแล้วไม่ยอมนำส่งเงินสมทบให้ สปส.หรือนายจ้างจ่ายเงินสมทบในส่วนของนายจ้างไม่ครบ 180 เดือนตามเงื่อนไข สปส.ขอตรวจสอบข้อมูลก่อนและขอให้ผู้ประกันตนนำหลักฐานมายืนยัน เช่น สลิปเงินเดือน หรือนำพยานบุคคลซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานมายืนยัน อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ประกันตนไม่มีหลักฐานยืนยัน ถ้าตรวจสอบพบว่าเป็นความจริง สปส.ยืนยันจะจ่ายเงินบำนาญชราภาพให้แก่ผู้ประกันตนโดยครบถ้วนเลือกตามสิทธิที่ได้รับอย่างแน่นอน” เลขาธิการ สปส.กล่าว

ที่มา : www.manager.co.th