ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

คมชัดลึก - รองปลัด สธ.แจ้งความเอาผิดประชาคมสาธารณสุข บุกรุก-ข่มขู่คุกคาม ด้าน 40 ส.ว.ให้กำลังใจ "หมอณรงค์" แนะถามกกต.กรณี ศอ.รส.เรียกสอบแถลงการณ์ไม่รับอำนาจรัฐบาล

รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขแจ้งความเอาผิดกลุ่มประชาคมสาธารณสุข ที่เข้าไปปลดป้ายชื่อออกจากแผนผังบอร์ดผู้บริหารที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยระบุว่าได้ทำร้ายลูกน้องด้วย เมื่อวันที่ 14 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธรณสุข เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อคืนวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา ในข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการและข่มขู่คุกคาม กับกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากเลขาฯ หน้าห้องและคนขับรถถูกทำร้าย โดยมีวิดีโอรูปถ่ายเป็นหลักฐาน

นพ.ชาญวิทย์ เปิดเผยว่า ส่วนตัวไม่ได้โกรธ ไม่ได้ถือโทษ เพราะเข้าใจสถานการณ์ดี แต่เนื่องจากระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นลูกน้องถูกทำร้าย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นหากไม่พอใจตนให้มาคุยกับตนหรือมาเล่นงานตน

วันเดียว กลุ่ม 40 ส.ว. ประกอบด้วย กรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค กรรมาธิการการสาธารณสุข คณะกรรมาธิการตรวจสอบทุจริตและเสริมสร้างภรรมาภิบาล คณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสารและโทรคมนาคม เข้าให้กำลังใจ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณาสุข ภายหลังศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เรียกตัวเข้าไปชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีประชาคมสาธารณสุขออกมาแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ไม่ยอมรับอำนาจรัฐบาล ให้นายกรัฐมนตรีลาออก แสดงจุดยืนให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง โดยกลุ่ม ส.ว.สนับสนุนให้ นพ.ณรงค์ เดินหน้าทำตาม้อเรียกร้องของประชาคมสาธารณสุข อีกทั้งยังแสดงความดีใจที่มีข้าราชการเช่น นพ.ณรงค์ กล้าออกมาต่อสู้เรื่องนี้

นายคำนูณ สิทธิสมาน กรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา กล่าวว่า การเรียกสอบ นพ.ณรงค์ ไปชี้แจงข้อเท็จจริงในการออกแถลงการณ์ประชาคมสาธารณสุขนั้น หากนายกรัฐมนตรีเป็นผู้อออกคำสั่งเรียกโดยตรง หรือ รมว.สาธารณสุขเป็นคนออกคำสั่งก็สามารถทำได้ แต่การที่ ศอ.รส.ออกคำสั่งเรียก ส่วนตัวคิดว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เกรงว่าจะเป็นการขยายอำนาจ ศอ.รส.ที่เกินความจำเป็น

"อย่าว่าแต่เรียกปลัดกระทรวงใดไปสอบสวนเลย แม้กระทั่ง ศอ.รส.ใช้งบประมาณในช่วงรัฐบาลรักษาการก็ยังมีหลายคนสงสัยในขอบเขตอำนาจนี้ ซึ่งก็ไม่สามารถสรุปได้ว่าถูกหรือไม่ถูก แต่เป็นปัญหาที่ข้อกฎหมายที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นจึงเห็นว่า นพ.ณรงค์ควรนำคำสั่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรไปแจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าเป็นคำสั่งที่ชอบหรือไม่" นายคำนูณ กล่าว

ด้าน นายสมชาย แสวงการ กรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า ศอ.รส.มีภารกิจเฉพาะจำกัดตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงเท่านั้น แต่ นพ.ณรงค์ไม่ได้ทำผิดข้อหาที่เกี่ยวกับความมั่นคง ดังนั้นการที่ ศอ.รส.ออกคำสั่งถือว่าผิดกฎหมาย จะสั่งปลัดในฐานะอะไร ดังนั้นเห็นว่าปลัดกระทรวงสาธารสุขไม่จำเป็นต้องไปชี้แจง

เช่นเดียวกับ นพ.เจตน์ ศิรธานนท์ กรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา กล่าวว่า ประเด็นสำคัญคือ แถลงการณ์ฉบับที่ 3 ของประชาคมสาธารณสุข ถือเป็นมติของที่ประชุม ไม่ใช่ความเห็นของ นพ.ณรงค์ คนเดียว ส่วนการที่ นพ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข จะออกคำสั่งให้ข้าราชการปฏิบัติตามนั้น ก็สามารถทได้ แต่ต้องเป็นคำสั่งที่ชอบ ไม่ฝืนรัฐธรรมนูญ อีกทั้งการชุมนุมทางการเมือง การมาราชการที่ กทม.ก็เป็นสิทธิที่ข้าราชการสามารถทำได้เช่นเดียวกับสิทธิของประชาชนทั่วไป ในการแสดงความคิดเห็น ถ้าไม่ทำให้งานราชการเสียหายก็สามารถทำได้ ดังนั้น รมว.สาธารณสุขจึงไม่มีอำนาจสั่งห้ามการชุมนุม

ขณะที่ นพ.ณรงค์ กล่าวว่า จะประมาวลทุกคำแนะนำและความคิดเห็นต่างๆ มาประเมินอีกครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินการใดๆ ต่อไป รวมถึงศึกษาข้อมูลด้วย ซึ่งกำลังดูว่าจะทำหนังสือถึง กกต.หรือไม่ แต่ขณะนี้เวลาในศึกษาเรื่องต่างๆ ไม่ค่อยมี เพราะต้องเร่งดำเนินการเรื่องเขตบริการสุขภาพทั้ง 12 เขต ที่ดำเนินการมาแล้ว 1 ปีจากนี้เข้าสู่ปีที่ 2 จะต้องมีการประเมินและปรับปรุงในเรื่องใดบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาคมสาธารณสุขบางส่วนแสดงความไม่พอใจ นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข จะมีมาตรการอย่างไรไม่ให้เกิดความขัดแย้ง นพ.ณรงค์ กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เกิดความสามัคคีความเป็นเอกภาพ ความไม่สับสนภายใน จึงอยากให้เข้าใจว่า ความเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องปกติ ต้องยอมรับฟัง และต้องอยู่ด้วยกันอย่างสามัคคี

ที่มา--คมชัดลึก ฉบับวันที่ 16 ม.ค. 2557 (กรอบบ่าย)--