ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ไทยรัฐ - กระทรวงสาธารณสุข เผยการปฏิรูประบบบริการสาธารณสุข 1 ปีที่ผ่านมา ทำคุณภาพระบบบริการสาธารณสุขของประเทศไทยดีขึ้นเผยยุทธศาสตร์ปีที่ 2 เน้นพัฒนาระบบบริการสุขภาพในเขตเมืองใหญ่ อย่างจังหวัดในเขตปริมณฑล...

นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการปฏิรูปปรับโครงสร้างบทบาทหน้าที่ของหน่วยงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและคุณภาพระบบบริการสาธารณสุขของประเทศไทย เกิดประโยชน์กับประชาชนที่สุด และไม่ให้เกิดปัญหาค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต โดยใช้ยุทธศาสตร์เขตบริการสุขภาพ เป็นการบริหารจัดการร่วมอย่างมีธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ใน 4 ด้าน คือ กำลังคน งบประมาณ การลงทุนร่วมและการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะยาและเวชภัณฑ์ และวัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยเริ่มดำเนินการมาครบ 1 ปีแล้ว อยู่ระหว่างการประเมินผลการดำเนินงาน เบื้องต้นจากการไปตรวจเยี่ยมแล้ว 3 เขตในภาคกลาง พบว่า ลดความแออัด และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั้งระบบ ประชาชนพอใจ

นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่อว่า ได้แบ่งพื้นที่ทั่วประเทศ เป็น 12 เขตบริการสุขภาพ เป็นการรวมกลุ่มจังหวัด 4-8 จังหวัดที่อยู่ติดกัน ดูแลประชากร 4-5 ล้านคนร่วมกัน โดยมีการบริหารจัดการร่วมแบบเบ็ดเสร็จในเขต ทั้งการบริการขั้นพื้นฐานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล การรักษาโรคที่ไม่ซับซ้อนในโรงพยาบาลอำเภอ และโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปสำหรับโรคที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หรือเครื่องมือพิเศษ เป็นบริการแบบไร้รอยต่อของทั้งเขตบริการ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนได้รับบริการใกล้บ้านขึ้นจนหายป่วย

"ในเรื่องการลดความแออัด การรอคิวรักษาของประชาชน ที่เป็นปัญหาอย่างมากในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ซึ่งโรคบางอย่างอาจไม่ต้องมารักษาที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ได้สามารถพัฒนาร่วมกัน เช่น ที่โรงพยาบาลชลบุรี ต้องรับผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย ปีละเกือบ 500 ราย เพื่อมาให้เลือด หากพัฒนาโรงพยาบาลชุมชนสามารถให้เลือดให้ยาขับเหล็กแก่ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียได้ ก็จะช่วยลดความแออัดได้อย่างน้อยปีละ 500 คน หรือโรคตาต้อกระจก ที่ส่งต่อมารักษามากเป็นลำดับ 2 ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ หากจักษุแพทย์ในจังหวัด ตกลงร่วมกันบริหารจัดการผู้ป่วย เช่น ไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลชุมชน ก็ไม่ส่งต่อไปนอนรักษาที่โรงพยาบาลใหญ่ เป็นการลดความแออัดลงได้" นายแพทย์ณรงค์กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการยกระดับขีดความสามารถและมาตรฐานการรักษาพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข เช่น โรงพยาบาลที่มีเตียงว่าง จะผ่าไส้ติ่ง แต่หากไม่มีหมอดมยา มาตรฐานวิชาชีพบอกว่าไม่ได้ ได้ให้ ผอ.รพ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นเลขาธิการแพทยสภา ประสานกับสำนักบริการสาธารณสุข (สบรส.) จัดทำมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ที่จะใช้พยาบาลวิชาชีพที่ผ่านการอบรมเรื่องการดมยาสลบทำงาน ทำหน้าที่แทนหมอดมยา ภายใต้การดูแลของแพทย์ ซึ่งจะทำให้สามารถจัดบริการดูแลประชาชนได้มากขึ้น

นายแพทย์ณรงค์ กล่าวอีกว่า ในปีที่ 2 ของการปฏิรูป จะเน้นการพัฒนาระบบบริการสุขภาพในเขตเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร และจังหวัดในเขตปริมณฑล ซึ่งมีลักษณะพิเศษ ต่างจากพื้นที่ทั่วไป ทั้งในเรื่องจำนวนประชากร การเคลื่อนย้ายประชากร จำนวนสถานบริการที่จะรองรับ รวมทั้งการเข้าถึงบริการด้วย โดยมอบหมายให้ นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขดูแล เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้ทุกที่ คุณภาพดีทุกครั้ง เท่าเทียมเป็นธรรมทุกคน

ที่มา: http://www.thairath.co.th