ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เปิดโครงการ “ศิริราชก้าวไกล ส่งยาทั่วไทยทางไปรษณีย์” บริการจัดส่งยาทางไปรษณีย์ครั้งแรกในประเทศเทศไทยเพื่อเสริมความสะดวกสบายให้กับผู้ป่วยนอก โดยหลังเข้ารับการตรวจรักษาและได้รับใบสั่งยาจากแพทย์แล้ว ผู้ป่วยสามารถขอเข้าร่วมรับยาทางไปรษณีย์

นางสาวอานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย เป็นหน่วยงานหลักและสำคัญของประเทศไทยในการให้บริการขนส่งและเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงคนไทย มาตลอดระยะเวลากว่า 130 ปี โดยในปี 2557 นี้ ไปรษณีย์ไทยร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล จัดโครงการ “ศิริราชก้าวไกล ส่งยาทั่วไทยทางไปรษณีย์” อันผนวกประสิทธิภาพของการส่งเอกสารและพัสดุของไปรษณีย์ไทยเข้ากับการบริการส่งยาให้กับผู้ป่วยนอก ซึ่งถือเป็นเป็นครั้งแรกของวงการโรงพยาบาลไทยที่เล็งเห็นถึงการเสริมความสะดวกสบายให้กับผู้ป่วย โดยบทบาทการจัดส่งยาทางไปรษณีย์และการรักษาคุณภาพของการจัดส่งว่าเรานำจุดแข็งของเครือข่ายที่ทำการไปรษณีย์กว่า 1,300 แห่งทั่วประเทศ มาบริหารการจัดส่งให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพด้วยบริการ EMS หรือไปรษณีย์ด่วนพิเศษในประเทศ ผู้ป่วยจะได้รับยาภายในวันรุ่งขึ้น สำหรับปลายทางกรุงเทพ-ปริมณฑล และ 2-3 วันทำการ สำหรับปลายทางในต่างจังหวัด โดยยาทุกกล่องที่จัดส่งผ่านไปรษณีย์จะมีสัญลักษณ์เฉพาะ ให้เจ้าหน้าที่สังเกตได้ชัดเจนบนกล่อง ด้วยเทปกาวสีแดงผนึกรอบกล่องทั้ง 3 ด้าน เพิ่มความแน่นกระชับของกล่อง จ่าหน้าผู้รับมีตราสัญลักษณ์กาชาด ระบุข้อความยาและเวชภัณฑ์ ตลอดจนมีหมายเลข 13 หลัก สำหรับตรวจสอบสถานะสิ่งของ พร้อมเสริมด้วยอุปกรณ์การทำงานที่ได้มาตรฐานของเจ้าหน้าที่ และมีการโทรศัพท์นัดหมายก่อนนำจ่ายถึงบ้านทุกครั้ง และสามารถตรวจสอบสถานะผลการจัดส่งผ่านระบบ Track&Trace ได้ทาง www.thailandpost.co.th หรือสอบถามได้ที่ THP Contact Center 1545 ฯลฯ จึงมั่นใจได้ว่ายาของผู้ป่วยทุกกล่องจะได้รับการดูแล ตรวจสอบ และควบคุมทุกขั้นตอนการจัดส่งอย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจถึงคุณภาพของยา และเวชภัณฑ์ ที่ยังคงได้มาตรฐาน 100 % โดยนับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการเมื่อ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการจัดส่งยาไปยังผู้ป่วยในโครงการนี้แล้วรวมกว่า 300 ราย คิดเป็นพื้นที่ปลายทางกทม.- ปริมณฑล 53.18% ต่างจังหวัด 46.82%

ปัจจุบันนอกจากความร่วมมือกับโรงพยาบาลศิริราชในการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ให้แก่ผู้ป่วยถึงบ้านแล้ว ปณท ยังได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานของรัฐด้านสาธารณสุขอื่น ๆ อีกหลายโครงการ อาทิ ร่วมกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เมื่อปี 2554 จัดส่งน้ำเกลือที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดย ปณท ทำหน้าที่จัดส่งและกระจายน้ำเกลือที่นำเข้ามาส่งที่ท่าเรือแหลมฉบัง ไปยังโรงพยาบาล คลินิก และร้านจำหน่ายยาเวชภัณฑ์ทั่วประเทศ หลังจากนั้นมีการต่อยอดในการให้บริการขนส่งโดยการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ให้แก่โรงพยาบาล คลินิก และร้านจำหน่ายยาเวชภัณฑ์ทั่วประเทศ รวมทั้งบริการจัดส่งน้ำยาล้างไตถึงบ้านผู้ป่วยจำนวนกว่า 14,500 รายต่อเดือนทั่วประเทศอีกด้วย นอกจากนี้ ปณท ยังร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการจัดส่งวัตถุเสพติดที่ใช้ในทางการแพทย์ ด้วยระบบ Shipping Tools ซึ่งเป็นการจัดส่งเวชภัณฑ์วัตถุเสพติดที่ใช้ทางการแพทย์โดยเฉพาะไปยังสถานพยาบาลทั่วประเทศในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยใช้รถขนส่งโดยเฉพาะที่มีการควบคุมอุณหภูมิไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส และติดตั้งระบบ GPS ติดตามสถานการณ์ขนส่ง รวมทั้งได้รับความไว้วางใจจากสภากาชาดไทยในการจัดส่งถุงบรรจุโลหิตและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องไปยังโรงพยาบาลตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม จากการร่วมมือในการให้บริการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์แก่ผู้ป่วยนอกที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชในครั้งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยทั่วประเทศ โดย ปณท คาดหวังว่าในอนาคตจะขยายเครือข่ายความร่วมมือบริการการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ในสถานพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศและสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วยที่ใช้บริการสถานพยาบาลทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 100 ล้านคนต่อปี เพื่อยกระดับคุณภาพในการเข้าถึงบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของประชาชน ดังแนวทางการดำเนินงานไปรษณีย์ไทยในการเป็น เครือข่ายชีวิต และเศรษฐกิจไทย นางสาวอานุสรา กล่าวสรุป

ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า โรงพยาบาลศิริราช มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมายาวนานกว่า 126 ปี โดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมีนโยบายและเป้าหมายที่ชัดเจน ในเรื่องการยกระดับศิริราชให้เทียบเท่านานาชาติในทุกๆ ด้าน ซึ่งหนึ่งในแผนกลยุทธ์ของคณะฯ คือ การพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่มีคุณค่า มีความปลอดภัย และความน่าไว้วางใจตามมาตรฐานสากล ที่ผ่านมาคณะฯ ได้รับการรับรองจากองค์การมาตรฐานสากลในเรื่องการพัฒนาคุณภาพ อาทิ มาตรฐาน ISO 15189 และ ISO 22870 สำหรับห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ได้รับการรับรองคุณภาพโรงพยาบาลจากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล HA มีการนำแนวคิดและเครื่องมือพัฒนาคุณภาพที่มีประสิทธิภาพ เช่น Lean, KM, R2R (Routine to Research) มาปรับปรุงคุณภาพการให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยในทุกภาคส่วน รวมถึงการให้บริการผู้ป่วยนอกรูปแบบใหม่ ด้วยโครงการ “ศิริราชก้าวไกล ส่งยาทั่วไทยทางไปรษณีย์” โดยร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ให้บริการจัดส่งยาผู้ป่วยของโรงพยาบาลศิริราชทั่วประเทศไทย ในรูปแบบ “One Stop Service” รวดเร็ว ปลอดภัย ด้วยมาตรฐานสากล

ด้าน ผศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการ รพ.ศิริราช กล่าวถึงรายละเอียดการดำเนินงานของโรงพยาบาลว่า จากจำนวนผู้ป่วยที่รับการรักษาในโรงพยาบาลศิริราชมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกิดการรอคอยในการรับยา ชำระค่าบริการ กว่าจะได้กลับบ้านก็หมดเวลาไปเกือบครึ่งวัน โรงพยาบาลจึงหาวิธีที่จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับบ้านเร็วขึ้น จากผลการวิเคราะห์ระบบงานเพื่อลดความสูญเปล่า จึงเกิดโครงการ “ศิริราชก้าวไกล ส่งยาทั่วไทย ทางไปรษณีย์” ซึ่งเรามองว่า “ไปรษณีย์ไทย” เป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพ ที่จะช่วยให้ยาของเราไปถึงมือผู้ป่วยโดยเร็ว มีคุณภาพ และประสิทธิภาพ ด้วยไปรษณีย์ด่วนพิเศษในประเทศ หรือ EMS ส่งด่วนทั่วไทย นับเป็นทางเลือกใหม่ที่ฝ่ายเภสัชกรรม รพ.ศิริราช ได้ร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด อำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วย โดยหลังเข้ารับการตรวจรักษาและได้รับใบสั่งยาจากแพทย์แล้ว ผู้ป่วยสามารถขอเข้าร่วมรับยาทางไปรษณีย์โดยผู้ที่จะเข้ามารับบริการจัดส่งยาทางไปรษณีย์ ต้องได้รับการประเมินจากเภสัชกรในการใช้ยาว่าสามารถใช้ยาได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย และเป็นผู้ป่วยที่สามารถควบคุมอาการได้คงที่แล้ว ตามขั้นตอนการให้บริการดังนี้

1. ติดต่อที่เคาน์เตอร์ให้บริการส่งยาทางไปรษณีย์ (ตรงข้ามเคาน์เตอร์ออกใบนัดผู้ป่วย) หน่วยตรวจอายุ ศาสตร์ชั้น 2 ห้อง 210 ตึกผู้ป่วยนอก

2.  ผู้ป่วยกรอกใบแจ้งความจำนงเข้าร่วมการจัดส่งยาทางไปรษณีย์พร้อมเขียนชื่อ ที่อยู่ที่ต้องการให้จัดส่ง

3.  เภสัชกรประเมินการใช้ยาของผู้ป่วย อธิบายยาที่ผู้ป่วยได้รับ และให้ตารางการรับประทานยาแก่ผู้ป่วยพร้อมให้เอกสารใบยืนยันการรับยาทางไปรษณีย์ที่มีหมายเลขพัสดุ 13 หลัก

4.  ผู้ป่วยชำระเงินค่ายา และค่าจัดส่งทางไปรษณีย์ อัตราเดียว ราคา 150 บาท

5.  รับยาตามที่อยู่ที่ระบุ โดยจัดส่งยาทางด่วนพิเศษในประเทศ หรือ EMS ส่งด่วนทั่วไทย ภายใน 1-3 วัน ทำการ นับจากวันที่ตรวจเสร็จ”

ทั้งนี้ เภสัชกรจะมีการตรวจสอบยาทุกครั้งก่อนนำส่งไปรษณีย์ นอกจากนี้ยังมีการสำรวจคุณภาพของยาจากต้นทางศิริราชจนถึงปลายทางมือผู้รับ และการสำรวจความพึงพอใจผู้รับบริการ ทั้งนี้เพื่อลดความแออัดของผู้มารับบริการ ลดระยะเวลาในการรอรับยาของผู้ป่วยนอก และสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้มารับบริการมากขึ้น โดยในช่วงแรก เริ่มให้บริการที่ตึกผู้ป่วยนอก และคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการเฉพาะวันเสาร์ จากนั้นจะขยายโครงการให้ครบทุกวัน ซึ่งระยะเวลาที่ผู้ป่วยจะได้รับยาภายใน 1-3 วัน นับจากวันที่ตรวจเสร็จ ผศ.นพ.วิศิษฎ์ กล่าวสรุป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายตลาดสื่อสารและขนส่ง บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด 111 หมู่ 3 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 - 0299 หรือเข้าไปที่ www.thailandpost.co.th