ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยความคืบหน้าเหตุระเบิดที่จังหวัดปัตตานี มีผู้บาดเจ็บรวม 73 ราย เสียชีวิต 3 ราย แพทย์รับตัวนอนโรงพยาบาล 22 ราย ผ่าตัด 6 ราย นอนไอซียู 4 ราย อยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 3 ราย และโรงพยาบาลยะลา 1 ราย ทุกรายอาการปลอดภัย แพทย์ดูแลเต็มที่ สั่งกำชับให้สถานบริการทุกแห่ง ดูแลความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่จังหวัดปัตตานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ( 24 พฤษภาคม 2557 ) ว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุขได้ระดมหน่วยแพทย์กู้ชีพระดับสูงจากโรงพยาบาลปัตตานี และโรงพยาบาลชุมชนใกล้เคียง กว่า 10 ทีม ร่วมกับหน่วยกู้ชีพขั้นพื้นฐานจากมูลนิธิต่างๆในจังหวัด เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและนำส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วและเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาลที่ปฏิบัติงานมีความปลอดภัยที่สุด

ล่าสุดได้รับรายงานจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บทั้งหมด 73 ราย ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิด แพทย์ให้การรักษาและให้กลับบ้านแล้ว 51 ราย รับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล 22 ราย โดยอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 20 ราย ผ่าตัด 5 ราย ขณะนี้อาการหนัก อยู่ในห้องไอซียู 3 ราย ที่เหลือ 17 ราย พักรักษาตัวในหอผู้ป่วยสามัญ ในจำนวนนี้เป็นพยาบาลโรงพยาบาลโคกโพธิ์ 1 ราย ถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าท้อง ลำไส้ใหญ่ฉีกขาด ได้รับการผ่าตัดเย็บลำไส้ใหญ่ ขณะนี้อาการปลอดภัย

ส่วนผู้บาดเจ็บที่เหลืออีก 2 ราย ส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลยะลา เป็นเด็กอายุ 2 ขวบ รักษาอยู่ในห้องไอซียู มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะหลายแห่ง มีเลือดออกในสมอง และมีบาดแผลที่ลำตัว แขนขา ประมาณ 10 แผล แพทย์ทำการผ่าตัดสมอง เอาสะเก็ดระเบิดออกแล้ว อาการล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้ ( 25 พฤษภาคม 2557 ) เวลา 10.00 น. ผู้ป่วยยังใส่เครื่องช่วยหายใจ รู้สึกตัวดี แพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนอีก 1 ราย เป็นหญิงอายุ 29 ปี มีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดหลายแผลที่ขาทั้ง 2 ข้าง พักอยู่หอผู้ป่วยสามัญ ผู้บาดเจ็บทุกรายอาการปลอดภัย

นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อไปว่า ได้สั่งการกำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขใน 5 จังหวัดชายแดนใต้ โรงพยาบาลทุกแห่ง จัดเตรียมความพร้อมในการจัดบริการทั้งห้องฉุกเฉิน คลังเลือด ห้องผ่าตัด ไอซียู ให้เข้มงวดความปลอดภัยอาคารสถานที่ทุกแห่ง และความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ทุกคน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในหน่วยแพทย์กู้ชีพ ซึ่งต้องเดินทางออกไปให้การดูแลผู้เจ็บป่วยในที่เกิดเหตุตลอด 24 ชั่วโมง โดยในบ่ายวันนี้จะเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บและญาติ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ และติดตามดูมาตรการความปลอดภัยอื่นๆด้วย