ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

9 ต.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการพัฒนาระบบยา มีบันทึกข้อความที่ สธ.0519.123/2279 ลงวันที่ 1 ต.ค.57 เรื่องการปรับวิธีใช้ ยาพาราเซตามอล ส่งถึงประธานคณะกรรมการเภสัชกรรมและการบำบัด (PCT) โดยระบุว่า ต่างประเทศมีการรายงานข้อมูลความเสี่ยงในการใช้ acetaminophen หรือ paracetamol ต่อการเกิดตับถูกทำลายอย่างรุนแรง จากการใช้พาราเซตามอลในขนาดที่สูงมาก

ซึ่งก่อนหน้านี้ มีรายงานว่าเครือข่ายโรงพยาบาลส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลศูนย์ต่างจังหวัดและโรงพยาบาลเครือข่ายโรงเรียนแพทย์ประมาณ 50 แห่ง ได้รับทราบถึงอันตรายในการรับประทานยาพาราเซตามอลมากจนมีอันตรายต่อตับ จึงมีการนำร่องส่งเสริมการใช้ยาดังกล่าวอย่างสมเหตุผล และเริ่มต้นที่โรงพยาบาลเหล่านี้ไปแล้ว โดยกำหนดการเขียนรายงานการสั่งยาของแพทย์ ให้จ่ายยาพาราเซตตามอลแก่ผู้ป่วยหญิงจำนวน 1 เม็ด รับประทานทุก 6 ชั่วโมง ส่วนผู้ป่วยชายให้พิจารณาเป็นรายบุคคล จากเดิมที่เขียนสั่งจ่ายยาพาราเซตามอลให้ผู้ป่วยในอัตรา 2 เม็ดรับประทานทุก 4 ชั่วโมง และให้เขียนกำกับบนฉลากยาด้วยว่า ห้ามใช้ยาพาราฯเกิน 8 เม็ดต่อวัน เพราะเป็นพิษต่อตับ

ทั้งนี้ คณะกรรมการพัฒนาระบบยา จึงเห็นควรมีมติ ให้ปรับวิธีการใช้ยาพาราเซตามอล โดยให้เป็นไปตามคำแนะนำของ Rational drug use (RDU) Label Working Group ที่กำหนดให้จ่ายยาพาราเซตามอล 500 mg/เม็ด รับประทานครั้งละ 1 เม็ด ห่างกันทุก 6 ชั่วโมง ในกรณีที่มีการอาการปวดหรือมีไข้ แต่ห้ามรับประทานเกิน 8 เม็ด/วัน เพราะอาจเป็นพิษต่อตับ ซึ่งคำแนะนำนี้ให้ใช้กรณีผู้ใหญ่เท่านั้น ส่วนกรณีเด็กหรือผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักน้อยให้ยึดตามคำสั่งแพทย์