ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

"หมอสุทัศน์" เสียงแข็งยืนยันไม่ส่งข้อมูลบัตรทองให้ สปสช. หลังผลหารือร่วม รมว.สธ.มอบปลัดสธ.แก้ปัญหา รพศ./รพท.ไม่ส่งข้อมูลให้สปสช. เหตุล้วงลูกคนทำงาน เสนอตั้งคนกลางยุติปัญหาความขัดแย้ง

6 ม.ค.58 นพ.สุทัศน์ ศรีวิไล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ในฐานะประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป(รพศ./รพท.) กล่าวถึงผลการประชุมหาข้อยุติการจัดสรรงบประมาณรายหัว ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในผลการหารือทางรมว.สธ.ได้มอบให้ปลัดสธ.แก้ปัญหา รพศ./รพท.ไม่ส่งข้อมูลให้สปสช. ว่า เนื่องจากขณะนี้ทางชมรมฯ ยังไม่เห็นผลการประชุมอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงแนวทางดำเนินการหลังจากนี้ แต่อย่างไรก็ตามจากการติดตามข้อมูลข่าวสาร ทราบว่าทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้ข้อยุติร่วมกัน เนื่องจากต่างฝ่ายต่างยึดมั่นตามแนวทางและข้อเสนอของตนเอง ดังนั้นในระหว่างที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ ทางชมรมฯ จำเป็นต้องดำเนินการตามที่ได้ระบุไว้ นั่นก็คือยืนยันว่าจะไม่ส่งข้อมูลบริการประชาชน ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ไปยัง สปสช. แต่จะส่งข้อมูลนี้ไปยังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพียงหน่วยงานเดียว

"ชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ยืนยันว่าจะไม่ส่งข้อมูลบัตรทองกลับไปยัง สปสช. เพราะเห็นว่าการดำเนินงานในลักษณะนี้ ถือเป็นการล้วงลูกคนทำงาน เพราะตามบทบาทหน้าที่ ในเมื่อ สปสช.ส่งงบเหมาจ่ายรายหัวลงไปในพื้นที่แล้ว ก็ต้องปล่อยให้ผู้บริการเป็นคนบริหารงบประมาณ ไม่ใช่เข้ามากำหนดราคาค่าบริการ ว่าต้องทำอะไรบ้างในกี่บาท ซึ่งต่างจากสิทธิประกันสังคมที่เมื่อส่งเงินลงมาแล้ว ก็จะปล่อยให้หน่วยบริการเป็นผู้บริหารงบประมาณเอง" นพ.สุทัศน์ กล่าว

ประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป กล่าวต่อไปว่า สำหรับประเด็นที่หลายฝ่ายกังวลว่า การที่โรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไม่ส่งข้อมูลไปยัง สปสช.จะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยนั้น ขอยืนยันว่าในส่วนของการบริการประชาชน จะไม่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะบุคลากรในโรงพยาบาลจะยังคงทำหน้าที่ตามปกติ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการกระจายงบประมาณ ตามข้อเสนอของ สธ. เป็นการก้าวก่ายอำนาจ สปสช. ตรงนี้อยากให้กลับไปดูว่าใครกันแน่ที่ทำเกินกว่าอำนาจหน้าที่ แล้วสุดท้ายมาโวยวายว่า สธ.พยายามเข้าไปก้าวก่ายอำนาจของตนเอง

"ในเมื่อปัญหาความขัดแย้งของทั้งสองหน่วยงาน ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ จึงอยากให้ผู้มีอำนาจตั้งคณะกรรมการ ซึ่งไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ขึ้นมาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยปัญหา เพราะต่างฝ่ายยังคงยืนยันตามข้อเสนอของตัวเอง ดังนั้นหากมีคนกลางที่มีดุลยพินิจเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาโดยเร็ว ก็น่าจะส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่าย" นพ.สุทัศน์ ทิ้งท้าย