ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อย.ขอความร่วมมือจากประชาชน ในการแจ้งชื่อ-นามสกุล ให้กับร้านขายยา ก่อนซื้อยาในกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ได้แก่ ยาน้ำเชื่อมแก้แพ้ แก้ไอ ยาแก้ปวดทรามาดอล เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการจ่ายยา จะช่วยให้เภสัชกรทำทะเบียนประวัติ เพื่อติดตามความปลอดภัยการใช้ยาของผู้ป่วยได้ดีขึ้น และควบคุมสถานการณ์ปัญหา เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค และแก้ไขปัญหาทางสังคมร่วมกัน

นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า จากกรณีปัญหาการใช้ยาในทางที่ไม่เหมาะสมของกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน ที่มีการนำยาแก้ปวดผสมกับยาน้ำเชื่อมแก้แพ้ แก้ไอ มาเสพ เพื่อให้เกิดฤทธิ์มึนเมา ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ และเป็นปัญหาของสังคมในวงกว้าง อย.จึงได้มีมาตรการออกประกาศกำหนดให้มีการจำกัดจำนวน การจำหน่ายและกระจายยากลุ่มนี้ โดยกำหนดให้เภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการร้านขายยาจะต้องจัดทำบัญชีการขายยากลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ โดยระบุชื่อ-นามสกุลของผู้ซื้อ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการจ่ายยา

ทั้งนี้ อย. จึงขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งชื่อ-นามสกุลก่อนการซื้อยากลุ่มยาน้ำเชื่อม แก้แพ้ แก้ไอ และ ยาแก้ปวดทรามาดอล เพื่อประโยชน์ในการป้องกันวัยรุ่นและเยาวชน นำยาไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้ทางร้านขายยาสามารถจัดทำรายงานการขายยา เพื่อใช้ในการติดตาม เฝ้าระวังในการคุ้มครองผู้บริโภคและป้องกันการรั่วไหลของยาเหล่านี้ออกนอกระบบสาธารณสุขต่อไป

“อย. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับความร่วมมือจากประชาชน ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว และขอความร่วมมือผู้ปกครองในการช่วยกันดูแลบุตรหลานของท่านอย่างใกล้ชิด ไม่ให้นำยาไปใช้ในทาง ที่ผิด เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาทางสังคมร่วมกัน” เลขาธิการ อย.กล่าว

ภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม กล่าวเสริมว่า การที่ประชาชนให้ชื่อ-นามสกุล ของผู้ใช้ยาหรือผู้ซื้อยากับเภสัชกรที่ปฏิบัติการในร้านขายยา จะช่วยให้เภสัชกรทำทะเบียนประวัติ เพื่อติดตามความปลอดภัยการใช้ยาของผู้ป่วยได้ดีขึ้น อย่างไรก็ดี หากจะใช้ ชื่อ-นามสกุลในการทำบัญชี เพื่อการควบคุมกำกับการใช้ยากลุ่มที่มีปัญหา ควรจะต้องมีการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทั้งประเทศ ควบคู่ด้วย จึงจะสามารถกำกับได้ตามวัตถุประสงค์ ป้องกันการเวียนซื้อซ้ำของผู้ประสงค์นำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม