ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายผู้ป่วยวิเคราะห์สิทธิของผู้ป่วยและข้อพึงปฏิบัติของผู้ป่วย ชี้บั่นทอนความมั่นใจต่อการเข้ารับบริการรักษา ซ้ำเติมความสัมพันธ์แพทย์และผู้ป่วย ระบุถ้าเกิดเหตุไม่พึงประสงค์จริงทางผู้ให้บริการจะร่วมรับผิดชอบไหม เพราะอาจอ้างได้ว่าได้แจ้งในประกาศแล้ว จะทำให้เกิดการฟ้องร้องมากขึ้น เตรียมเข้าพบ รมว.สธ.เพื่อเสนอคำคัดค้านอย่างเป็นทางการต่อไป เผยคำประกาศสิทธิผู้ป่วยฉบับใหม่นี้ ผ่านรับฟังความคิดเห็นครั้งเดียว และได้ท้วงติงประเด็นนี้แล้ว แต่ก็เพียงเปลี่ยนจาก หน้าที่ผู้ป่วย เป็นข้อพึงปฏิบัติแทนเท่านั้น 

เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2558 กลุ่มเครือข่ายผู้ป่วยประกอบด้วยเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ประเทศไทย เครือข่ายเพื่อนโรคไต เครือข่ายผู้ป่วยมะเร็ง เครือข่ายผู้ป่วยโรคฮีโมฟีเลีย เครือข่ายผู้ป่วยโรคหัวใจ รวมทั้งองค์กรเอกชนด้านเอดส์และสุขภาพ แถลงข่าวคำประกาศสิทธิผู้ป่วยฉบับใหม่ ซึ่งทางเครือข่ายผู้ป่วยเห็นว่าคำประกาศดังกล่าวได้เพิ่มข้อพึงปฏิบัติของผู้ป่วยขึ้นมา เมื่อดูเนื้อหาแล้วเหมือนขัดแย้งกับสิทธิผู้ป่วย ซ้ำยังสร้างความไม่เชื่อมั่นที่จะได้รับความคุ้มครองในการเข้ารับบริการรักษา

นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ประเทศไทย กล่าวว่า คำประกาศสิทธิผู้ป่วยฉบับใหม่ที่เพิ่มข้อพึงปฏิบัติของผู้ป่วยเข้ามา แม้ว่าเจตนาจะสร้างความเข้าใจกับผู้ป่วยต่อการเข้ารับการรักษาพยาบาล แต่ในขณะเดียวกันก็บั่นทอนความมั่นใจของผู้ป่วยไปด้วย เพราะในคำประกาศมีการพูดถึงความไม่แน่นอนของการรักษา เช่นการระบุว่าทุกการรักษา หรือการวินิจฉัยโรคทางการแพทย์อาจเกิดเหตุอันไม่พึงประสงค์หรือสุดวิสัยได้ ซึ่งปกติเราก็เข้าใจหลักการนี้ แต่พอมาอยู่ในข้อพึงปฏิบัติ มันทำให้เราต้องตีความเลยว่า แล้วถ้าเกิดเหตุอันไม่พึงประสงค์จริงทางผู้ให้บริการทางการแพทย์จะร่วมรับผิดชอบไหม เพราะก็จะอ้างได้ว่าได้แจ้งในประกาศแล้ว ซึ่งแบบนี้ไม่น่าจะดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการ อาจจะยิ่งทำให้เกิดการฟ้องร้องกันมากขึ้น ในขณะที่ประเทศเรายังไม่สามารถออกกฏหมายคุ้มครองผู้เสียหายทางการแพทย์ได้

น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล กรรมการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า การมีข้อพึงปฏิบัติของผู้ป่วย ถ้าไม่ค้านจะกลายเป็นว่าทุกคนต้องยอมรับโดยดุษฎี ซึ่งต่อไปหากจำเป็นต้องมีการฟ้องร้องกรณีที่ผู้ป่วยได้รับความเสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ผู้ป่วยจะแพ้หมด เพราะจะอ้างว่าผู้ป่วยไม่ปฏิบัติตามเองและหมอทำเต็มที่แล้ว ฉะนั้นต้องคัดค้าน ที่ผ่านมาเคยมีคดีที่อ้างมาตราหนึ่งใน พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติที่ให้ผู้ป่วยทำหน้าที่แต่ไม่ทำ ศาลชี้ตามให้ผู้ป่วยแพ้ ซึ่งกรณีนี้คงต้องมีการเข้าพบรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนั่งเป็นนายกพิเศษกับสภาวิชาชีพทุกแห่งเพื่อเสนอคำคัดค้านอย่างเป็นทางการต่อไป

“คำประกาศสิทธิผู้ป่วยฉบับใหม่นี้ แม้จะอ้างว่าได้จัดเวทีรับฟังความเห็นแล้ว มีเครือข่ายผู้ป่วย และตัวแทนผู้บริโภคเข้าร่วมด้วยตั้งแต่ตุลาคมปี 2557 แต่ก็เป็นเพียงเวทีเดียว และในเวทีก็ได้มีการท้วงติงประเด็นนี้แล้ว แต่สภาวิชาชีพแก้เฉพาะหัวข้อจากหน้าที่ของผู้ป่วย มาเป็นข้อพึงปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยเท่านั้น” น.ส.กรรณิการ์ กล่าว

ด้าน นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ตอนนี้มีความเคลื่อนไหวโดยสภาวิชาชีพ โรงพยาบาลเอกชน และบริษัทยาข้ามชาติ พยายามใส่เนื้อหาแบบนี้ในอีกหลายจุด ทั้งในร่างรัฐธรรมนูญที่ตกไปแล้ว ธรรมนูญสุขภาพที่อยู่ระหว่างการรีวิว ในคำประกาศนี้ และอีกหลายกฎหมายซึ่งเราต้องช่วยกันจับตา

ทั้งนี้เครือข่ายผู้ป่วยได้จัดเวทีวิเคราะห์คำประกาศสิทธิผู้ป่วยและข้อพึงปฏิบัติของผู้ป่วยขึ้น ในวันที่ 21 กันยายน 2558 เพื่อร่วมกันวิเคราะห์ข้อดีข้อด้อยของคำประกาศดังกล่าว และหารือเพื่อหาจุดยืนและการแสดงท่าทีต่อกรณีดังกล่าว