ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประธานชมรม ผอ.รพ.สต.ชี้ การจัดบริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจะบรรลุเป้าหมายตามนโยบาย สธ. ตอบโจทย์ประโยชน์ประชาชน ให้งานบริการแพทย์แผนไทยครอบคลุมทั่วประเทศ ต้องบรรจุบุคลากรแพทย์แผนไทยในโครงสร้างอัตรากำลังคนของ รพ.สต. และเปิดช่องให้จ้างเป็นลูกจ้างเงินบำรุง หรือ พกส.ได้

นายสมศักดิ์ จึงตระกูล

นายสมศักดิ์ จึงตระกูล ประธานชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ประเทศไทย) กล่าวถึงปัญหาและอุปสรรคการจัดบริการแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ว่า แม้ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะมีนโยบายให้มีบริการแพทย์แผนไทยใน รพ.สต. แต่ปัจจุบันมีแพทย์แผนไทย เพียงโรงพยาบาลชุมชน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และ รพ.สต.ขนาดใหญ่ในจังหวัด อำเภอละ 2-3 แห่ง ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวง หรือจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ขณะที่ รพ.สต.อื่นๆ หากจะจัดบริการแพทย์แผนไทย ก็ต้องใช้วิธีจัดจ้างเหมาบริการเอาเอง ซึ่งการจัดจ้างก็จะติดขัดระเบียบการจ้างลูกจ้างชั่วคราวเงินบำรุง ซึ่งต้องสอดคล้องกับโครงสร้างอัตรากำลังของ รพ.สต. แต่ทุกวันนี้ตำแหน่งแพทย์แผนไทยยังไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในโครงสร้าง รพ.สต.

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตามปกติแล้ว การจะมีตำแหน่งใดในโครงสร้าง รพ.สต. จะต้องผ่านการพิจารณาจาก อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นไปตามกฎหมายก่อน ซึ่งทางชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ประเทศไทย) ได้พยายามผลักดันประเด็นการปรับโครงสร้างอัตรากำลังของ รพ.สต. ทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ว่าจะมีจำนวนบุคลากรในแต่ละวิชาชีพเท่าใด ตามขนาดของ รพ.สต.นั้นๆ ซึ่งรวมไปถึงแพทย์แผนไทยด้วย แต่ขั้นตอนขณะนี้ยังผ่านเพียงขั้นตอนของ อ.ก.พ.สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับจาก อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุขแต่อย่างใด ดังนั้น หากจะจัดบริการแพทย์แผนไทย  รพ.สต. ก็ทำได้เพียงแค่จ้างเหมาบริการเท่านั้น

"พอจ้างเหมาบริการ ก็จะติดขัดที่เงินบำรุงของ รพ.สต. ซึ่งไม่ค่อยจะมี เพราะ รพ.สต.ได้รับงบสนับสนุนจากโรงพยาบาลแม่ข่ายเดือนละหมื่นกว่าบาท ขณะที่มีภาระเงินบำรุง 2-5 หมื่นบาทตามแต่ขนาดของ รพ.สต. รวมทั้งงบ fixed cost ที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กำหนดแนวทางให้แต่ละเครือข่ายบริการ (รพ.ช./รพ.ท./รพ.ศ.) จัดสรรให้ รพ.สต.ที่ได้กำหนดไว้ตามขนาดเล็ก กลาง ใหญ่  25,000 / 27,500 / 30,000 บาท/แห่ง ก็ยังไม่เดินหน้าที่เท่าควร บางจังหวัดได้ตามเรต แต่บางจังหวัดก็ยังนิ่งอยู่" นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวย้ำว่า การปรับโครงสร้างอัตรากำลัง ต้องผ่านการพิจารณาจาก อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข ตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน และหาก อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุขอนุมัติโครงสร้างอัตรากำลังคนแล้ว ทาง สธ.ก็ต้องวางแผนขอตำแหน่งกับ กพร. เพื่อตั้งอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ของบประมาณให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบบริหารจัดการ และในระหว่างขออัตราข้าราชการตั้งใหม่ สธ.ควรต้องปรับปรุงแก้ไขระเบียบการจ้างลูกจ้างชั่วคราวเงินบำรุง เพื่อให้ รพ.สต. สามารถจัดจ้างได้ตามโครงสร้าง โดยอาจจะจ้างเป็นลูกจ้างเงินบำรุง หรือจ้างเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) ตามแต่สถานะเงินบำรุงของ รพ.สต.แต่ละแห่ง หรือตามการสนับสนุนจาก สสจ. แต่ละจังหวัด แต่ในขั้นแรกต้องผ่านโครงสร้างอัตรากำลังคนของ รพ.สต.ในชั้น อ.ก.พ.กระทรวง ให้ได้เสียก่อน

ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นโยบายการจัดให้มีแพทย์แผนไทยครอบคลุม รพ.สต. ทั่วประเทศเป็นนโยบายของปลัดกระทรวง แต่ตนยังไม่ได้สอบในรายละเอียดในขณะนี้ อย่างไรก็ตามโดยหลักการแล้วก็ควรมีบริการแพทย์แผนไทยทุก รพ.สต. เพียงแต่ในทางปฏิบัติต้องดูตามภาระงาน  เพราะบาง รพ.สต.ที่อยู่ห่างไกล ดูแลประชากร 500-1,000 คน ก็ต้องมาคุยกันว่าตรงไหนจะเป็นจุดพอดี

อนึ่ง เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2560 ที่ผ่านมา นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างอาคารแพทย์แผนไทย-กายภาพบำบัด ณ รพ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร พร้อมทั้งระบุว่าในปี 2560 มีนโยบายให้ รพ.สต.มีบุคลากรแพทย์แผนไทยครบทุกแห่ง ให้บริการแบบครบวงจรทุกพื้นที่ แม้พื้นที่ห่างไกล