ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ส่งพนักงานเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบสถานพยาบาลเอกชน ในกรุงเทพฯ ย้ำสถานพยาบาลทุกแห่งต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ห้ามซื้อขายอสุจิ ไข่ หรือตัวอ่อน ชี้ผิดทั้งกฎหมาย และมนุษยธรรมมีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลด้วย

จากกรณี การจับกุมนายนิธินนทน์ ศรีธานิยานันท์ อายุ 25 ปี พร้อมถังไนโตรเจน ได้ที่จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2560 โดยนายนิธินนทน์ อ้างว่าได้รับการว่าจ้างนายยู ลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ให้มารับถังไนโตนเจนที่บรรจุอสุจิจากคลินิกเอกชนในกรุงเทพฯ และนำข้ามไปยังคลินิกเอกชน นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งแต่ปี 2559 โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 5,000 บาท นั้น

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ และกองกฎหมาย ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ในสถานพยาบาลเอกชน ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ป้องกัน มิให้มีการซื้อขายอสุจิ ไข่ หรือตัวอ่อน รวมทั้งกระทำการเป็นคนกลาง นายหน้า หรือชี้ช่องทางให้มีการรับตั้งครรภ์แทน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ผิดทั้งกฎหมาย มนุษยธรรม และศีลธรรมอันดี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี

ทั้งนี้ กรม สบส. ขอเน้นย้ำให้สถานพยาบาลที่ให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ และคู่สมรสที่มีบุตรยาก ศึกษาและปฏิบัติตามกฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558 อย่างเคร่งครัด หากกระทำการซื้อ ขาย นำเข้า หรือส่งออก ซึ่งอสุจิ ไข่ หรือตัวอ่อน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นคนกลาง นายหน้า หรือชี้ช่องทางให้มีการรับตั้งครรภ์แทน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นพ.ธงชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีสถานพยาบาลที่ให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ จำนวน704 แห่งทั่วประเทศ เพื่อป้องปราม มิให้เกิดการกระทำผิดขึ้นอีก จึงได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่จากกลุ่มคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ สพรศ.ตรวจเข้มสถานพยาบาลที่มีการให้บริการเทคโนโลยีฯ ในเขต กทม. พร้อมประสานไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ให้ตรวจสอบสถานพยาบาลพื้นที่ให้ปฏิบัติตามที่กฎหมาย และหากประชาชนพบเห็นการซื้อขายอสุจิ ไข่ ตัวอ่อน การเป็นนายหน้า หรือรับจ้างอุ้มบุญ สามารถแจ้งเบาะแสมาที่สายด่วนคุ้มครองผู้บริโภค 02 193 7999 กรม สบส.จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายโดยไม่มีการละเว้นแต่อย่างใด