ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“หมอปิยะสกล” ตรวจเยี่ยม “ระบบดูแลสุขภาพเรือนจำโคราช” จับมือ รพ.เดอะโกลเดนเกท สร้างนวัตกรรมการบริการสุขภาพที่จำเป็นให้กับผู้ต้องขังอย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งรักษา สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค พร้อมเยี่ยมชม “ห้องเอกซเรย์ในเรือนจำแห่งแรกของประเทศ” รุกคัดกรอง วินิจฉัยและรักษาโรคเร็ว ลดการแพร่กระจายโรค

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2560 นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน “ระบบการดูแลสุขภาพและการแก้ไขปัญหาวัณโรคในเรือนจำ” โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายภักดี ตั้งธรรม ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครราชสีมา และ นพ.ประสิทธิ์ จีระสิริ ผู้อำนวยการ รพ.เดอะโกลเดนเกท ให้การต้อนรับพร้อมให้ข้อมูลการดำเนินงาน

นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ผู้ต้องขังเป็นหนึ่งในประชากรกลุ่มเปราะบางที่มีปัญหาการเข้าถึงบริการสุขภาพ และส่งผลต่อปัญหาการแพร่กระจายโรคในเรือนจำ เช่น วัณโรค เอดส์ ดังนั้นการพัฒนาระบบบริการเพื่อให้ผู้ต้องขังเข้าถึงการรักษาเป็นสิ่งจำเป็นตามหลักสิทธิมนุษยชนและลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรคที่สำคัญ ที่ผ่านมา สปสช.เขต 9 นครราชสีมาร่วมกับ รพ.เดอะโกลเดนเกท ซึ่งเป็น รพ.เอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพ ได้ริเริ่ม “การส่งเสริมสุขภาพผู้ต้องขังในเรือนจำนครราชสีมา” ตั้งแต่ปี 2551 ครอบคลุมการรักษาพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ และระบบส่งต่อผู้ป่วย

จากผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี ต้องยอมรับว่าการพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพผู้ต้องขังในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ได้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิผล จนเกิดนวัตกรรมบริหารจัดการและเป็นต้นแบบการพัฒนาระบบบริการผู้ต้องขังให้กับพื้นที่อื่น ปัจจัยความสำเร็จเกิดจากความมุ่งมั่นพัฒนาระบบบริการผู้ต้องขังอย่างต่อเนื่องของ รพ.เดอะโกลเดนเกท ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเรือนจำกลางนครราชสีมา การสนับสนุนของเรือนจำกลางให้เกิดความพร้อมของสถานที่และบุคลากรสุขภาพในเรือนจำ การสนับสนุนของ สปสช.ในด้านงบประมาณ และการสนับสนุนให้เกิดกลไกความร่วมมือของทุกภาคส่วนโดย สสจ.นครราชสีมา ช่วยให้ผู้ต้องขังเข้าถึงสิทธิและบริการสุขภาพที่จำเป็นอย่างครบวงจร

“จุดเด่นการพัฒนาระบบดูแลสุขภาพพื้นที่ จ.นครราชสีมา เกิดจากความร่วมมือภาครัฐและเอกชน โดย รพ.เดอะโกลเดนเกท นอกจากในปี 2552 ได้เปิดอาคารเรือนมหาชนกเพื่อจัดเป็นแผนกผู้ป่วยในรองรับดูแลผู้ต้องขังโดยเฉพาะแล้ว ยังจัดทีมแพทย์และสหวิชาชีพเพื่อให้บริการในเรือนจำ การคัดกรองสุขภาพผู้ต้องขังในเรือนจำปีละ 1 ครั้ง โดยปี 2559 ยังได้เปิดห้องเอกซเรย์ภายในเรือนจำกลางนครราชสีมาเป็นแห่งแรกของประเทศ เพิ่มศักยภาพคัดกรองโรค สะดวก สามารถวินิจฉัยโรคโดยเร็วเพื่อนำไปสู่กระบวนการรักษา ลดปัญหาการแพร่กระจายโรค โดยเฉพาะวัณโรคที่แพร่กระจายได้ง่าย” รมว.สาธารณสุข กล่าว

นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า จากผลสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ ในปี 2560 ยังนำมาสู่การขยายความร่วมมือเรือนจำทั้ง 12 แห่งในเขตสุขภาพที่ 9 จัดระบบการลงทะเบียนสิทธิสำหรับผู้ต้องขัง การจัดบริการในกลุ่มโรคที่สำคัญที่เป็นปัญหาสุขภาพของผู้ต้องขัง อาทิ วัณโรค เอดส์ และโรคเรื้อรัง รวมถึงการคัดกรองโรค

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า นอกจากพื้นที่ จ.นครราชสีมาแล้ว ขณะนี้ สปสช.ได้ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและพื้นที่ เพื่อพัฒนาการเข้าถึงบริการสุขภาพแก่ผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศ มีความคืบหน้าการจัดการข้อจำกัดและความร่วมมือ เช่น การจัดการฐานข้อมูลผู้ต้องขัง การจัดทำแผนปฏิบัติการระดับพื้นที่ร่วมกันในระดับจังหวัด การออกแบบกลไกการทำงานร่วมกัน การกำกับติดตามในระดับเขตเพื่อให้ทำงานเชื่อมต่อกับจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น

ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 และยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 4 ปี 2560-2564 เน้นความครอบคลุมทุกคนบนผืนแผ่นดินไทยให้ได้รับความคุ้มครองหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าด้วยความมั่นใจ ซึ่งรวมถึงผู้ต้องขังในเรือนจำ ทั้งยังเป็นไปตามหลักมนุษยชน