ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สาธารณสุขอำเภอทั่วประเทศ ร่วมใจสร้างประวัติศาสตร์ ปั่น ปลุก ลุก สร้าง กระแสรณรงค์โครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน จัดกิจกรรมปั่นจักรยาน 4 ภาค 8 สายปั่น ร่วมกันชวนคนเลิกบุหรี่ ประเดิมสายแรก 27 มิ.ย.นี้

หลังจากกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เครือข่ายหมออนามัย ประกอบด้วย มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย สมาคมหมออนามัย ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ได้ร่วมกันดำเนินการโครงการ “3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ตั้งเป้าชักชวน เชิญชวน ท้าชวนให้มีผู้เลิกสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องให้ได้ไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือตลอดชีวิตให้ได้จำนวน 3 ล้านคน ในระยะเวลา 3 ปี (ปี 2559-2561) ซึ่งข้อมูล ณ สิ้นเดือน พฤษภาคม 2561 มีผลงานผู้เข้าร่วมเลิกบุหรี่ จำนวนประมาณ 1.2 ล้านคน และ มีผู้เลิกบุหรี่อย่างต่อเนื่องให้ได้ไม่น้อยกว่า 6 เดือน จำนวนประมาณ 1.4 แสนคน

ปี 2561 นับเป็นก้าวย่างเข้าสู่ปีที่ 3 กระทรวงสาธารณสุข สสส. เครือข่ายหมออนามัย จึงได้ผนึกกำลังเดินหน้าเชิญชวน ชักชวน และช่วยให้คนไทยเลิกบุหรี่เพิ่มขึ้น ด้วยการกิจกรรมจัดโครงการ “6x4 ปั่น ปลุก ลุก สร้างกระแสรณรงค์โครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทยเทิดไท้องค์ราชัน ปีที่ 3” โดยให้สาธารณสุขอำเภอทั่วประเทศ 878 อำเภอ และภาคีเครือข่ายที่ทำงานเกี่ยวกับบุหรี่ ร่วมปั่นจักรยานระยะทางไกลในเส้นทาง 4 ภาครวม 8 สายปั่น เพื่อเชิดชูเกียรติ ร่วมรณรงค์ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ ทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ ๙ และเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ ๑๐

โดยจะกระตุ้นให้ประชาชนทุกพื้นที่ตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกายและใช้เป็นเครื่องมือเลิกบุหรี่อย่างจริงจัง ตลอดจนเสริมสร้างพลังเครือข่ายสุขภาพให้เข้มแข็ง ทั้งนี้การปั่นจักรยานเป็นผลดีต่อสุขภาพกายและจิตใจ ประหยัดพลังงาน ช่วยลดความเครียด เพราะขณะออกกำลังกายร่างกายจะหลั่งสารเอนโดรฟิน หรือสารสร้างความสุข ทำให้ผู้สูบบุหรี่มีความสุขและลดความต้องการอยากสูบบุหรี่ หากทำประจำจะทำให้ผู้สูบบุหรี่ที่ตั้งใจจะเลิกสามารถเลิกบุหรี่ได้

นายมงคล เงินแจ้ง นายกสมาคมหมออนามัย กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการช่วยกระตุ้นประชาชนเกิดความตื่นตัวหันมาออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้น เพราะการปั่นจักรยานเป็นกีฬาที่ได้กำลังได้รับความนิยม สามารถทำได้ทั้งคนเดียวหรือหมู่คณะ เป็นกีฬาที่ส่งดีต่อสุขภาพกายและจิตใจ ช่วยลดปัญหาสุขภาพของประชาชนอันเกิดจากสูบบุหรี่ได้

นายปิ่น นันทะเสน นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข กล่าวว่า โครงการปั่นจักรยานของสาธารณสุขอำเภอทั่วประเทศในครั้งนี้ จะทำให้หน่วยงาน องค์กร เครือข่ายมีกระบวนการทำงานส่งเสริมสุขภาพและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้สูบบุหรี่ พัฒนาศักยภาพการทำงานแก้ไขปัญหาการสูบบุหรี่ ตลอดจนแสดงศักยภาพทำงานของหน่วยงาน องค์กรเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวตระหนักถึงผลกระทบและสามารถจัดการปัญหาได้อย่างดี

นายประพัทธ์ ธรรมวงศา นายกสมาคมชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สาธารณสุขอำเภอทั่วประเทศเป็นหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ ขึ้นตรงต่อนายอำเภอ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และยังทำหน้าที่เป็นเลขานุการของคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) มีบทบาทหน้าที่ กำกับ ดูแล รพ.สต.จำนวน 9,785 แห่งและ อสม.จำนวนล้านกว่าคนในพื้นที่ในการทำงานด้านสาธารณสุข จึงต้องเป็นผู้นำต้นแบบด้านสุขภาพและใช้การออกกำลังกายเป็นเครื่องมือเลิกบุหรี่อย่างจริงจัง กิจกรรมครั้งนี้ถือ เป็นการสร้างประวิติศาสตร์ที่สำคัญ ในการออกมาปั่นจักรยานออกกำลังกาย เชิญชวนคนไทยเลิกบุหรี่พร้อมกันทั่วประเทศ

นายธาดา วรรธนปิยกุล ประธานมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย กล่าวว่า โครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติซึ่งจะช่วยลดปัญหาสุขภาพของประชาชนอันเกิดจากสูบบุหรี่ การระดมพลังจากทุกภาคครั้งนี้จะหนุนเสริมทำงานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน มีการตั้งเป้าหมายท้าทาย ให้มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ 3 ล้านคน เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกัน ให้ประชาชนห่างไกลจากพิษภัยบุหรี่และมีสุขภาพที่ดีอายุยืนยาว

ทั้งนี้ ตลอดระยะทางปั่นได้กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติทุกจังหวัดที่เป็นเส้นทางผ่าน จัดแสดงนิทรรศการ มอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับผู้สมัครใจเข้าร่วมโครงการฯ พร้อมประกาศเจตนารมณ์ร่วมกัน ทั้งนี้มีนักปั่นชื่อก้องโลกที่สร้างประวัติศาสตร์ให้คนทั้งโลกได้รู้จักประเทศไทย ในนาม คุณหมู – คุณวรรณโอทอง นักปั่นสร้างแรงบันดาลใจโดยใช้เวลา 6 ปี กับระยะทาง 40,000 กิโลเมตร รอบโลก ผ่าน 6 ทวีป 43 ประเทศ ซึ่งเส้นทาง 4 ภาค รวม 8 สายปั่น ได้แก่

สายที่ 1 สายเหนือ ในวันพุธที่ 27 มิถุนายน 2561 เริ่มต้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เส้นทาง-พะเยา-เชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง-แพร่-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-สุโขทัย-ตาก-กำแพงเพชร-นครสวรรค์-ชัยนาท-สิงห์บุรี-อ่างทอง-พระนครศรีอยุธยา-ปทุมธานี และ นนทบุรี

สายที่ 2 สายใต้ ฝั่งอันดามัน ในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2561เริ่มต้นที่ จ.สตูล-กระบี่-พังงา-ระนอง-ชุมพร-ประจวบคีรีขันธ์-เพชรบุรี-ราชบุรี-นครปฐม และ นนทบุรี

สายที่ 3 สายใต้ ฝั่งอ่าวไทย ในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2561เริ่มต้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา-พัทลุง-นครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี-ชุมพร-ประจวบคีรีขันธ์-เพชรบุรี-ราชบุรี-นครปฐม และนนทบุรี

สายที่ 4 สายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สายที่ 1 ในวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม 2561 เริ่มต้นที่ ลานอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ จ.หนองคาย-หนองบัวลำภู-ขอนแก่น-ชัยภูมิ-นครราชสีมา-สระบุรี-พระนครศรีอยุธยา และนนทบุรี

สายที่ 5 สายภาคตะวันออกเฉียงเหนือสายที่ 2 ในวันอังคารที่ 3 กรกฎาคม 2561 เริ่มต้นที่ จ.นครพนม-สกลนคร-กาฬสินธุ์-มหาสารคาม-นครราชสีมา-สระบุรี-พระนครศรีอยุธยาและนนทบุรี

สายที่ 6 สายภาคตะวันออกเฉียงเหนือสายที่ 3 ในวันพุธที่ 4 กรกฎาคม 2561เริ่มต้นที่ จ.มุกดาหาร-ยโสธร-ร้อยเอ็ด-อำนาจเจริญ-อุบลราชธานี-ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์-นครราชสีมา-สระบุรี-พระนครศรีอยุธยา และนนทบุรี

สายที่ 7 สายตะวันออก ในวันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม 2561 เริ่มต้นที่ จ.ตราด-จันทบุรี-ปราจีนบุรี-นครนายก-ปทุมธานีและนนทบุรี

สายที่ 8 สายตะวันตก ในวันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 เริ่มต้นที่ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จ.กาญจนบุรี-ราชบุรี-นครปฐมและนนทบุรี

โดยสายปั่นทุกสายร่วมปิดโครงการในวันอังคารที่ 10 กรกฎาคม 2561 ณ กระทรวงสาธารณสุข